สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายคาซูโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางจะพิจารณายุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากอัตราเงินเฟ้อยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
นายอูเอดะ กล่าวในรัฐสภาว่า ธนาคารกลางจะต้องรักษานโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากเป็นพิเศษเอาไว้ก่อนในขณะนี้ เนื่องจากแนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อ ยังไม่บรรลุกรอบเป้าหมายที่ 2% พร้อมกล่าวว่า การปรับขึ้นค่าจ้างที่แข็งแกร่งจากการเจรจารอบนี้ น่าจะช่วยเพิ่มรายได้และการบริโภคของครัวเรือน ซึ่งเป็นมุมมองที่ดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
ภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบัน ธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุว่า เงินเฟ้อมีแนวโน้มจะมุ่งสู่ระดับเป้าหมาย 2% ในอีก 1 ปีครึ่ง ถึง 2 ปีข้างหน้า ซึ่งหากภาวะเศรษฐกิจและราคาเป็นไปตามการคาดการณ์ในปัจจุบันของเรา แนวโน้มของเงินเฟ้อจะค่อย ๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ธนาคารกลางจะต้องพิจารณาลดระดับการกระตุ้นเศรษฐกิจ”
ตามคาดการณ์ปัจจุบันที่จัดทำขึ้นในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางญี่ปุ่นคาดว่าเงินเฟ้อ ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสด และเชื้อเพลิง จะแตะระดับ 1.9% ทั้งในปีงบประมาณ 2567 และ 2568 โดยธนาคารกลาง จะทบทวนการคาดการณ์เหล่านี้อีกครั้ง ในการประชุมครั้งถัดไป ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 25-26 เม.ย.
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางญี่ปุ่น ได้ประกาศยุตินโยบายดอกเบี้ยติดลบ ที่ดำเนินยาวนานถึง 8 ปี ซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่มุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูการเติบโตทางเศรษฐกิจและกำจัดภาวะเงินฝืดด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายการเงินขนานใหญ่ มานานหลายทศวรรษ
ด้านนักลงทุนกำลังจับตาหาเบาะแสจากผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปเมื่อใด โดยผลสำรวจของรอยเตอร์ แสดงให้เห็นว่านักเศรษฐศาสตร์มากกว่าครึ่งหนึ่ง คาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ของธนาคารกลางญี่ปุ่น จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนต.ค. ถึง ธ.ค.
ที่มา: รอยเตอร์