สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า JPMorgan Chase สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้จากกลุ่มวาณิชธนกิจ โดยคาดว่าในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ จะโตขึ้นสู่ระดับ 25-30% โดยได้แรงหนุนจากตลาดทุน
การปรับประมาณการในครั้งนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นมาก จากเดือนพ.ค. หลัง JPMorgan คาดว่า รายได้จากกลุ่มวาณิชธนกิจ จะเพิ่มขึ้นในระดับ 10% ในไตรมาสที่ 2 โดย Troy Rohrbaugh ซีอีโอร่วม ฝ่ายธนาคารพาณิชย์และวาณิชธนกิจ ของ JPMorgan ระบุว่า “ตลาดทุนยังคงแข็งแกร่งอย่างมากและธุรกิจโดยรวมก็ปรับตัวดีขึ้น” พร้อมคาดว่า รายได้จากการซื้อขายหลักทรัพย์ปรับขึ้นเล็กน้อย โดยสูงกว่าประมาณการเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในระดับ 5%
ในไตรมาสแรก รายได้จากการซื้อขายหลักทรัพย์ของ JPMorgan ปรับตัวลดลง 5% สู่ระดับ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยรายได้จากตราสารหนี้ การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง 7% ในขณะที่ ธุรกิจหุ้นทรงตัว ขณะเดียวกัน รายได้จากวาณิชธนกิจเพิ่มขึ้น 27% แตะที่ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรก โดยได้แรงหนุนจากค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น สำหรับการจัดจำหน่ายตราสารหนี้และหุ้น
คณะกรรมการของ JPMorgan ระบุว่า Troy Rohrbaugh ถือเป็นผู้สมัครที่มีศักยภาพที่จะเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอต่อจาก Jamie Dimon ซึ่งคาดว่าจะลาออกจากตำแหน่งในอีกไม่เกิน 5 ปี ขณะที่ คู่แข่งชิงตำแหน่งรายอื่นๆ ประกอบด้วย Jennifer Piepszak ซีอีโอร่วม ฝ่ายวาณิชธนกิจ, Marianne Lake ซีอีโอ ฝ่ายการธนาคารเพื่อผู้บริโภคและชุมชน และ Mary Erdoes ซีอีโอ ฝ่ายบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง
Troy Rohrbaugh ระบุว่า “บริษัทหลายแห่งที่มีตำแหน่งซีอีโอร่วม มักกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันภายในองค์กร แต่ไม่ใช่วิธีการทำงานของ JPMorgan อย่างแน่นอน” โดยเมื่อพิจารณาจากภูมิหลังแล้ว Troy Rohrbaugh มักมีวิธีการทำงานที่มุ่งเน้นไปที่ตลาด ในขณะที่ Piepszak จะมุ่งเน้นไปที่วาณิชธนกิจ และทั้ง 2 จะทำงานร่วมกันในการตัดสินใจเกี่ยวกับระบบการชำระเงินที่สำคัญ
ที่มา: รอยเตอร์