โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist, BBLAM
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชิเกรุ อิชิบะ จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของญี่ปุ่น หลังจากชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ก.ย. ตามผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ อิชิบะ วัย 67 ปี เอาชนะ ซานาเอะ ทาคาอิจิ (ซึ่งหากได้รับชัยชนะจะกลายเป็นผู้นำหญิงคนแรกของประเทศ) ในการเลือกตั้งรอบสุดท้าย
ด้านความเห็นเชิงนโยบาย อิชิบะเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ประเทศต้องออกจากภาวะเงินฝืดอย่างเต็มที่ โดยมุ่งมั่นที่จะเพิ่มค่าจ้าง เพื่อรักษาเศรษฐกิจให้อยู่บนเส้นทางการฟื้นตัวอย่างยั่งยืน เขากล่าวว่า การกระตุ้นการบริโภคเป็นกุญแจสำคัญในการเอาชนะภาวะเศรษฐกิจซบเซา และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการช่วยเหลือครัวเรือนจากผลกระทบของเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น คำพูดของอิชิบะ บ่งชี้ว่า เขาจะสานต่อหลายๆ นโยบายของนายกรัฐมนตรี ฟุมิโอะ คิชิดะที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง โดยเฉพาะนโยบายที่มุ่งเน้นการเพิ่มค่าจ้าง
อิชิบะ ระบุว่า GDP ของญี่ปุ่นซบเซามานานสองทศวรรษ โดยการเติบโตของค่าจ้างยังไม่สามารถแซงหน้าอัตราเงินเฟ้อได้ เขาคาดว่าจะได้รับเลือกอย่างเป็นทางการให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 1 ต.ค. หลังจากนั้น เขาจะจัดตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่
สำหรับมุมมองที่มีต่อนโยบายการเงิน อิชิบะให้มุมมองที่มีต่อนโยบายการเงินแตกต่างกัน หลังจากชนะการเลือกตั้ง ชิเกรุ อิชิบะ ระบุว่า นโยบายการเงินของญี่ปุ่นจะยังคงผ่อนคลายอยู่ในภาพรวม แต่เขาเปิดรับการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก หากมีความจำเป็น ทั้งนี้ อิชิบะ เคยกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ในเดือนส.ค. ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นดำเนินนโยบายอย่างถูกทางในการยกเลิกอัตราดอกเบี้ยติดลบ และสนับสนุนการปรับนโยบายการเงินให้กลับสู่ภาวะปกติ
ด้วยมุมมองเชิงนโยบายการเงินของอิชิบะที่ยังไม่นิ่ง กอปรกับความกังวลที่นักลงทุนมีต่อแนวโน้มว่านายกฯ คนใหม่ของญี่ปุ่นจะปรับขึ้นภาษี Capital Income Tax สำหรับการลงทุนในตลาดทุน ขณะที่ ค่าเงินเยนแข็งค่า ส่งผลให้ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ก.ค.
ในลำดับถัดไป มีแนวโน้มว่า นายกฯ อิชิบะจะยุบสภาล่างเลือกตั้งใหม่ นักวิเคราะห์ทางการเมือง กล่าวว่า อิชิบะได้รับเลือกจากพรรค LDP ในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้อิชิบะดำเนินการจัดการเลือกตั้ง Snap Election เพื่อกระชับคะแนนเสียงในสภาล่าง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ กล่าวว่า หากผลการเลือกตั้งออกมาแล้วพรรค LDP ยังสูญเสียความนิยม ก็อาจจะเป็นเหตุให้ อิชิบะต้องออกจากตำแหน่งได้เช่นเดียวกัน
ความไม่แน่นอนเชิงการเมืองอาจจะอยู่กับญี่ปุ่นไปอีกสักระยะ จนกว่านายกฯ จะประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ซึ่งนายกฯ คนใหม่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “จะประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ให้เร็วที่สุด” สำหรับประเทศญี่ปุ่น การยุบสภาล่างเกิดขึ้นเพื่อที่จะรวบเก้าอี้ในสภาล่าง โดยส่วนใหญ่นายกฯ ญี่ปุ่นจะประกาศยุบสภาล่าง ต่อเมื่อโพลความนิยมปรับเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น Snap Election มักจะถูกมองว่า เป็นสัญญาณที่ดีเชิงการเมืองและตลาดมักจะมองว่าเป็นผลบวก (และญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ยุบสภาบ่อยมาก) เพราะถ้าไม่มั่นใจจริงๆ นายกฯ จะไม่ตัดสินใจยุบสภา ในช่วงปี 2023-24 นายกฯ คิชิดะ มีความพยายามจะยุบสภา แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากนายกฯ คิชิดะสูญเสียความนิยมจากประเด็นเรื่องก๊วนบริจาคเป็นเหตุให้ นายกฯ คิชิดะต้อง Step Down โจทย์นี้จึงถูกส่งต่อมาที่ อิชิบะ ว่า จะสามารถเรียกความนิยมของพรรค LDP กลับมาได้หรือไม่ ภายหลังการประกาศ Snap Election เพราะถ้าผลเลือกตั้งออกมาไม่ดี อิชิบะก็ต้องแสดงความรับผิดชอบเช่นเดียวกัน