โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางในเอเชียจะใช้ความระมัดระวังในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน เมื่อพิจารณาจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า และความเสี่ยงที่เกิดจากมาตรการภาษีการค้าของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
แอนดรูว์ ทิลตัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ฝ่ายกิจการเอเชียแปซิฟิกของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมสัปดาห์นี้ ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซียเตือนว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอยู่ในขอบเขตที่จำกัด เนื่องจากสถานการณ์ด้านการเมืองในสหรัฐฯ
“เมื่อพิจารณาจากความเป็นไปได้ที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้า และสกุลเงินดอลลาร์ที่เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี เราคิดว่าจังหวะในการปรับลดจะช้าลงมาก” ทิลตัน กล่าวกับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก “ผมคิดว่าสกุลเงินดอลลาร์มีความสำคัญอย่างมากเช่นกัน เพราะอัตราแลกเปลี่ยนและเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนนั้นมีความสำคัญมากสำหรับธนาคารกลางในเอเชีย”
ทั้งนี้ ทรัมป์ได้ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 60% นอกจากนี้ เขายังได้เสนอชื่อบุคคลต่างๆ เข้าร่วมคณะรัฐมนตรี ซึ่งรวมถึงการเลือกมาร์โก รูบิโอ ซึ่งมีจุดยืนต่อต้านจีน ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ และไมค์ วอลซ์ ให้เป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะเป็นปฏิปักษ์กับจีน
นอกจากนี้ ทิลตันคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนอาจต้องการรักษาค่าเงินหยวนให้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพในขณะนี้ แต่เงินหยวนก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าหากสหรัฐฯ บังคับใช้มาตรการภาษีการค้า โดยเขาคาดว่าเงินหยวนจะอ่อนค่าลงสู่ระดับประมาณ 7.50 หยวนต่อดอลลาร์
ที่มา: บลูมเบิร์ก