** สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) โดยระบุว่า ตัวเลขเปิดรับสมัครงานปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในเดือนพ.ย. แต่การจ้างงานที่อ่อนแอลง บ่งชี้ให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ กำลังชะลอตัว โดยตัวเลขเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความต้องการแรงงาน เพิ่มขึ้น 2.59 แสนตำแหน่ง สู่ระดับ 8.098 ล้านตำแหน่ง ขณะที่ข้อมูลสำหรับเดือนต.ค. ได้รับการปรับแก้ เพิ่มขึ้นเป็น 7.839 ล้านตำแหน่ง จากที่เคยรายงานก่อนหน้านี้ที่ 7.744 ล้านตำแหน่ง
*** ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ต้องการให้สภาคองเกรสขยายเพดานหนี้ของประเทศ พร้อมเสริมว่า เขาไม่ต้องการเห็นรัฐบาลกลางผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งในปัจจุบันอยู่ที่ระดับสูงกว่า 36 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยทรัมป์ระบุว่า “ตนแค่ไม่อยากเห็นการผิดนัดชำระหนี้ นั่นคือสิ่งที่ตัวเขาต้องการ”
การระงับเพดานหนี้ครั้งล่าสุดที่สภาคองเกรสเห็นชอบในปี 2023 ได้หมดอายุลงเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
*** นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla อาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากต้องรักษาสมดุลระหว่างบทบาทของเขาในรัฐบาลทรัมป์กับความสัมพันธ์ที่มีกับจีน ภายหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มรายชื่อบริษัท CATL เข้าไปในรายชื่อบริษัทที่ถูกระบุว่าทำงานร่วมกับกองทัพจีน โดย CATL เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นซัพพลายเออร์แบตเตอรี่ลิเธียมไออนฟอสเฟต (LFP) รายใหญ่ให้กับ Tesla สำหรับโรงงานการผลิตในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท โดย Tesla ส่งออกรถยนต์เหล่านี้ที่ติดตั้งแบตเตอรี่ CATL ไปยังตลาดอื่นๆ เช่น ยุโรปและแคนาดา
*** หนังสือพิมพ์ The Washington Post ประกาศเตรียมปลดพนักงานประมาณ 4% หรือคิดเป็นราว 100 คน เพื่อลดต้นทุน ท่ามกลางสถานการณ์ที่หนังสือพิมพ์ชื่อดังรายนี้ กำลังเผชิญกับการขาดทุนที่เพิ่มขึ้น โดยโฆษกของ The Washington Post ระบุว่า กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายฝ่ายของธุรกิจ พร้อมชี้แจงว่า การปลดพนักงานครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อกองบรรณาธิการข่าว
*** กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เรียกร้องให้รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯ ระงับการออกกฎระเบียบนาทีสุดท้าย ที่จะควบคุมการเข้าถึงชิป AI ทั่วโลก โดยเตือนว่า ข้อจำกัดดังกล่าว จะเป็นอันตรายต่อความเป็นผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ของสหรัฐฯ โดยสภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทต่างๆ เช่น Amazon, Microsoft และ Meta ระบุว่า กฎระเบียบดังกล่าว จะเป็นการจำกัดความสามารถของบริษัทสหรัฐฯ ในการขายระบบคอมพิวเตอร์ไปต่างประเทศอย่างไม่มีเหตุผล และอาจทำให้ต้องยอมให้คู่แข่งครองตลาดโลกไป
*** Getty Images ประกาศเตรียมควบรวมกิจการกับคู่แข่งอย่าง Shutterstock เพื่อสร้างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านคลังรูปภาพ มูลค่า 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่พร้อมรองรับยุค AI อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าว มีแนวโน้มที่จะถูกตรวจสอบด้านการต่อต้านการผูกขาด โดยบริษัททั้ง 2 ถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมเนื้อหาภาพที่มีลิขสิทธิ์ คาดการณ์ว่า การควบรวมกิจการครั้งนี้จะช่วยให้พวกเขาลดต้นทุนและมีโอกาสเติบโตทางธุรกิจ ด้วยการปลดล็อกโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติม ในช่วงเวลาที่การใช้งานเครื่องมือ AI แบบสร้างสรรค์ เช่น Midjourney กำลังคุกคามอุตสาหกรรม
*** เจนเซน หวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nvidia กล่าวว่า MediaTek จะสามารถจำหน่ายชิปประมวลผลกลางสำหรับเดสก์ท็อป ที่ทั้ง 2 บริษัทเปิดตัวในสัปดาห์นี้ และ Nvidia มีแผนที่ยังไม่มีแผนสำหรับชิปดังกล่าว โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในงาน CES 2025 Nvidia ได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปที่เรียกว่า Project DIGITS ซึ่งใช้ชิป AI รุ่นล่าสุด “Blackwell” ของ Nvidia และจะมีราคา 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นผลงานการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Nvidia และ MediaTek
*** ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยว่า ประมาณการกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 4 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทตามหลังคู่แข่งอย่าง SK Hynix ในการจัดส่งชิประดับไฮเอนด์ให้กับ Nvidia โดยซัมซุง ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปหน่วยความจำ สมาร์ทโฟน และโทรทัศน์รายใหญ่ที่สุดของโลก ประมาณการกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 4 ที่ 6.5 ล้านล้านวอน (4.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เทียบกับคาดการณ์โดย SmartEstimate ของ LSEG ที่ 7.7 ล้านล้านวอน
*** Discovery+ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของ Warner Bros Discovery ประกาศขึ้นราคาค่าสมาชิกรายเดือนที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นบริการสตรีมมิ่งรายแรกที่ปรับขึ้นราคาในปีใหม่นี้ โดยในปีที่ผ่านมา บริการสตรีมมิ่งหลายราย รวมถึง Max ซึ่งเป็นบริการหลักของ Warner Bros Discovery, Paramount+ และ Peacock ต่างปรับขึ้นราคาค่าสมาชิก เพื่อมุ่งเน้นการทำกำไร ในขณะที่ตลาดเริ่มอิ่มตัวและการเติบโตของจำนวนผู้สมัครสมาชิกเริ่มชะลอตัวลง
*** สำนักงานความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐฯ (National Highway Traffic Safety Administration) เผยว่า ได้เปิดฉากการสอบสวนรถยนต์ Tesla จำนวน 2.6 ล้านคันในสหรัฐฯ เนื่องมาจากรายงานอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้งานควบคุมรถได้จากระยะไกล ซึ่งการสืบสวนครั้งใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจากที่สำนักงานความปลอดภัยรถยนต์ของสหรัฐฯ ได้เปิดฉากการสอบสวนรถยนต์ Tesla จำนวน 2.4 ล้านคัน ที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ Full Self-Driving (FSD) เนื่องมาจากมีรายงานการชนกัน 4 ครั้ง รวมถึงอุบัติเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในปี 2023
*** บริษัท Exxon Mobil ส่งสัญญาณว่า กำไรจากการกลั่นน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างมากและความอ่อนแอในทุกธุรกิจ จะทำให้กำไรในไตรมาส 4 ลดลงประมาณ 1.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ยังระบุในการยื่นเอกสารต่อ SEC ว่า การขายสินทรัพย์ต้นน้ำ (upstream) จะส่งผลดีต่อผลประกอบการประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่การด้อยค่าโดยรวมจะทำให้มีค่าใช้จ่ายประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในเอกสารที่บริษัทยื่นไม่ได้ระบุถึงสาเหตุของการด้อยค่าดังกล่าว
*** หน่วยงานปราบปรามการทุจริตของเกาหลีใต้ ขยายเวลาออกหมายจับประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ที่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง และความพยายามครั้งที่ 2 ในการควบคุมตัวผู้นำที่ถูกฟ้องร้องรายนี้ อาจเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดในวันพุธ
คณะสอบสวนร่วม ซึ่งนำโดยสำนักงานสอบสวนการทุจริตสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง ได้ขยายเวลาออกหมายจับครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังหมายจับเดิมหมดอายุลง 1 วันก่อนหน้านั้น โดยเจ้าหน้าที่สอบสวนปฏิเสธที่จะยืนยันว่าหมายจับฉบับใหม่มีอายุนานเท่าใด
ที่มา: สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย