*** ติ๊กต๊อก (TikTok) แอปพลิเคชันวิดีโอสั้นชื่อดังของ ByteDance หยุดให้บริการในสหรัฐฯ เป็นเวลาหลายชั่วโมงในวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนที่กฎหมายแบนจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) โดยติ๊กต๊อกได้ยุติการให้บริการ หลังศาลสูงสุดสหรัฐฯ ตัดสินยืนยันกฎหมายสั่งแบนด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ โดย TikTok ได้หายไปจากร้านค้าแอปของ Apple และ Google ก่อนที่จะมีกฎหมายที่จะมีผลบังคับใช้ ด้านว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า “มีแนวโน้มสูง” ที่จะให้ TikTok ได้รับการผ่อนผันการแบนเป็นเวลา 90 วัน หลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์นี้
*** TikTok ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า กำลังกลับมาให้บริการอีกครั้ง หลังว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงว่าจะอนุญาตให้แอพกลับมาใช้งานในสหรัฐฯ ได้อีกครั้ง เมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์ TikTok ระบุว่า “ด้วยความพยายามของประธานาธิบดีทรัมป์ TikTok จึงได้กลับมาในสหรัฐฯ อีกครั้ง”
*** Perplexity AI บริษัทสตาร์ทอัพเสิร์ชเอ็นจิ้นของสหรัฐฯ ยื่นข้อเสนอต่อ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ในจีน เพื่อขอควบรวมกิจการกับ TikTok ในสหรัฐฯ โดย TikTok จะถูกสหรัฐฯ แบนใช้งานตั้งแต่วันอาทิตย์เป็นต้นไป หากไม่ขายกิจการ แม้ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะกล่าวว่า เขาจะให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียวิดีโอสั้นนี้ได้รับการผ่อนผันเป็นเวลา 90 วันก็ตาม
*** นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ประกาศจะไม่ยุติการสู้รบในพื้นที่ฉนวนกาซา โดยชี้ว่า กลุ่มฮามาสไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อตัวประกัน แม้จะมีการกำหนดวันหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสแล้ว และมีผลบังคับใช้แล้วก็ตาม
*** การหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ที่ล่าช้ามายาวนานในสงครามกาซา เริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว หลังกลุ่มฮามาสปล่อยตัวตัวประกันหญิง 3 คนเพื่อแลกกับตัวประกันชาวปาเลสไตน์ 90 คนที่ถูกคุมขังในเรือนจำของอิสราเอล โดยนับเป็นการหยุดยิงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2023 ซึ่งดูเหมือนจะเป็นไปตามแผนการณ์ หลังการเจรจาหลายเดือนระหว่างรัฐบาลของไบเดน ร่วมกับกาตาร์และอียิปต์ โดยการหยุดยิง 6 สัปดาห์นี้ มีเป้าหมายเพื่อปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอล 33 คนและชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนในเรือนจำของอิสราเอล
*** เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะถึงกำหนดเพดานการกู้ยืมที่กำหนดตามกฎหมายในวันอังคารนี้ และจะเริ่มใช้ “มาตรการพิเศษ” เพื่อหลีกเลี่ยงการเกินเพดานดังกล่าวและป้องกันความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรง โดยเยลเลนระบุว่า “ระยะเวลาที่มาตรการพิเศษสามารถใช้งานได้นั้น ขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอนหลายประการ รวมถึงความท้าทายในการคาดการณ์รายรับและรายจ่ายของรัฐบาลสหรัฐฯ ในอีกหลายเดือนข้างหน้า”
*** รัฐบาลสหรัฐฯ มอบเงิน 590 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับบริษัทโมเดอร์นาเพื่อพัฒนาวัคซีนป้องกันไข้หวัดนก ท่ามกลางความพยายามของนานาประเทศ ที่กำลังทุ่มเทความพยายามในการแก้ไขปัญหาการติดเชื้อในมนุษย์ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ (HHS) ยังมอบเงิน 176 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว เพื่อใช้พัฒนาและทดสอบวัคซีนป้องกันไข้หวัดนก H5N1 ที่ใช้ mRNA เป็นพื้นฐาน
*** ธนาคารแบงก์ออฟอเมริกา เตรียมมอบหุ้นให้กับพนักงานส่วนใหญ่ทั่วโลกเป็นครั้งที่ 8 นับตั้งแต่ปี 2017 หลังมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2024 โดยการมอบหุ้นดังกล่าว ซึ่งจะมอบเพิ่มเติมจากรางวัลจูงใจสิ้นปี จะถูกมอบให้กับพนักงานที่มีรายได้รวมต่อปีไม่เกิน 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมพนักงานประมาณ 97% ของพนักงานทั่วโลกของธนาคาร
*** Sam Altman ซีอีโอของบริษัท OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT กล่าวว่า ได้ทำการทดสอบโมเดล AI เชิงตรรกะ รุ่นใหม่ o3 mini เสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะเปิดตัวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยบริษัทมีแผนที่จะปล่อยอินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API) และ ChatGPT พร้อมกัน
*** โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แจ้งต่อที่ปรึกษาว่าเขาต้องการเดินทางเยือนจีนหลังเสร็จสิ้นการเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ โดยรายงานดังกล่าวระบุอ้างแหล่งข่าวรายหนึ่งว่า ทรัมป์แสดงความสนใจที่จะเดินทางเยือนจีนในช่วง 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่ง ซึ่งพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์จะมีขึ้นในวันจันทร์นี้ และสำนักข่าวของรัฐบาลจีนรายงานว่า ฮัน เจิ้ง รองประธานาธิบดีจีนจะเข้าร่วมพิธีดังกล่าวด้วย เนื่องจากรัฐบาลจีนพร้อมที่จะเสริมสร้างความร่วมมือ
*** รัฐบาลจีนออกแผนปี 2024-2035 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “ชาติการศึกษาที่เข้มแข็ง” โดยแผนดังกล่าวจะค่อย ๆ ขยายขอบเขตของการศึกษาฟรี จัดตั้งระบบเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของประชากรในวัยเรียน และปรับปรุงเค้าโครงของโรงเรียนประถม มัธยม และโรงเรียนอนุบาลให้เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ ยังจะเพิ่มจำนวนนักศึกษาปริญญาตรี “คุณภาพสูง” ขยายการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา และเพิ่มสัดส่วนของนักศึกษาระดับปริญญาเอกด้วย
*** จำนวนประชากรจีน ปรับตัวลดลงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันในปี 2024 โดยจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่าจำนวนการเกิดเล็กน้อย และผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าแนวโน้มดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นในปีต่อ ๆ ไป โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติกล่าวว่าจำนวนประชากรทั้งหมดในจีนลดลง 1.39 ล้านคน เหลือ 1.408 พันล้านคนในปี 2024 เมื่อเทียบกับจำนวน 1.409 พันล้านคนในปี 2023 ซึ่งข้อมูลดังกล่าว นับเป็นการตอกย้ำความกังวลว่าชาติเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกกำลังจะประสบปัญหา เนื่องจากจำนวนแรงงานและผู้บริโภคลดลง นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการดูแลผู้สูงอายุและสวัสดิการเกษียณอายุ ยังมีแนวโน้มที่จะสร้างความตึงเครียดเพิ่มเติมให้กับรัฐบาลท้องถิ่นที่กำลังเผชิญกับภาวะหนี้อยู่แล้ว
ที่มา: สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย