ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เผยการเพิ่มขึ้นของราคาและความต้องการของผู้บริโภคในจีนมีแนวโน้มปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่ ความเสี่ยงจากหนี้รัฐบาลท้องถิ่นและตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มปรับตัวลดลง
“จีนจะใช้นโยบายการคลังเชิงรุกมากขึ้น พร้อมกับนโยบายการเงินที่ผ่อนปรนมากขึ้น พื้นฐานของเศรษฐกิจยังมีความแข็งแกร่ง ส่วนเงินหยวนยังคงมีเสถียรภาพโดยส่วนใหญ่” นายพาย กงเซิ่ง (Pan Gongsheng) ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวในการประชุมที่จัดโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และกระทรวงการคลังของซาอุดีอาระเบีย ที่เมืองอัลอูลา (AlUla) ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 ก.พ.)
“ค่าเงินหยวนที่มีเสถียรภาพมีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจโลก” นายพาน กล่าวในที่ประชุม โดยธนาคารกลางจีนจะพยายามรักษาอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดให้มีเสถียรภาพอยู่ในระดับที่สมดุลและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับบริบท”
นอกจากนี้ นายพาน ยังกล่าวว่า จีนกำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการแบ่งขั้วเศรษฐกิจโลก โดยจีนยังคงมุ่งมั่นที่จะเปิดเศรษฐกิจ และจะสนับสนุนการค้าเสรี และการแข่งขันที่เป็นธรรม
ทั้งนี้ รัฐบาลจีน ซึ่งนำโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กำลังวางแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาลและปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ความมั่งคั่งของครัวเรือนจีนตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน หลังจากที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เผชิญกับความตกต่ำเป็นเวลานาน รัฐบาลจึงมุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นการบริโภคเป็นเป้าหมายสูงสุดทางเศรษฐกิจในปีนี้
ด้านนักวิเคราะห์ กล่าวว่า เศรษฐกิจโดยรวมของจีนยังคงเผชิญภาวะเงินฝืดต่อเนื่องเป็นปีที่สองในปี 2024 โดยมีแนวโน้มที่ระดับราคาสินค้าและบริการจะลดลงยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่สำคัญ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจจีนดูเหมือนจะเติบโตเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมาจากการออกมาตรการกระตุ้นชุดใหญ่
ที่มา: บลูมเบิร์ก