ฐบาลจีนเร่งผลักดันหลายเมืองใหญ่เพิ่มอัตราการใช้ชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ผลิตในประเทศให้ได้อย่างน้อย 70% ภายในปี 2027 เพื่อลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจากบริษัทสหรัฐฯ อย่าง Nvidia
รัฐบาลนครเซี่ยงไฮ้ระบุว่า จีนต้องมีการควบคุมชิปที่ใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์อย่างน้อย 70% ด้วยเทคโนโลยีที่ออกแบบหรือผลิตโดยบริษัทจีนเอง ขณะที่กรุงปักกิ่งวางเป้าหมายที่ 100% ภายในปี 2027 ด้านเมืองกุ้ยหยาง ศูนย์กลางดาต้าเซ็นเตอร์ในพื้นที่ตอนในของประเทศ ก็กำหนดให้ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ ต้องใช้ชิปที่ผลิตในจีนไม่ต่ำกว่า 90% โดยเมืองกุ้ยหยาง ยังเป็นที่ตั้งของดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ รวมถึง Apple ที่ตั้งในเมืองแห่งนี้ด้วย
แนวทางของท้องถิ่น สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลกลาง โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวในระหว่างการประชุมโปลิตบูโรว่า จีนต้องระดมทรัพยากรทั้งประเทศเพื่อบรรลุความพึ่งพาตนเองและความแข็งแกร่งด้าน AI พร้อมส่งสัญญาณว่า รัฐบาลจะหนุนการพัฒนาและการผลิตชิป AI แม้จีนมีผู้พัฒนา AI ภายในประเทศ เช่น DeepSeek, Alibaba และ Baidu แต่ยังคงต้องพึ่งพา Nvidia เป็นอย่างมาก ซึ่งครองส่วนแบ่งมากถึง 80% ตามข้อมูลปี 2024
หัวเว่ย ได้พัฒนาชิป Ascend 910 เป็นทางเลือกแก่บริษัทจีน โดยรุ่นเรือธง 910B มีประสิทธิภาพราว 85% ของชิป Nvidia H20 ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดจีน ซึ่งสื่อจีนรายงานว่า ชิปรุ่นถัดไป Ascend 920 จะมีสมรรถนะสูงขึ้นและสามารถทดแทน H20 ได้ ซึ่งชิปดังกล่าวผลิตโดย Semiconductor Manufacturing International Corp. (SMIC) โรงงานหล่อชิปขนาดใหญ่สุดของจีนที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนภาครัฐ ซึ่งนอกจากหัวเว่ยแล้ว ยังมี Cambricon Technologies และ Kunlun ของ Baidu ที่เร่งพัฒนาชิป AI อย่างจริงจัง ซึ่ง Shanxi Securities คาดว่า ส่วนแบ่งตลาดของ Nvidia ในจีนจะลดลงเหลือ 50–60% ภายใน 5 ปี ขณะที่ผู้ผลิตจีนรวมกันจะเพิ่มเป็น 40–50%
ทั้งนี้ Bloomberg รายงานว่า รัฐบาลจีนได้ขอให้บริษัทในประเทศ หลีกเลี่ยงการใช้ชิป Nvidia H20 โดยเฉพาะในงานด้านความมั่นคงหรือโครงการของรัฐ แม้กล่าวยอมรับว่า ชิปจีนยังด้อยกว่าในด้านประสิทธิภาพ แต่มีแนวโน้มเร่งใช้งานอย่างกว้างขวางในภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม การลดการพึ่งพาสหรัฐฯ ยังคงเป็นโจทย์ที่ยาก โดยตัวอย่างที่เห็นที่ได้ชัด คือโครงการพัฒนาโมเดล AI ใหม่ของ DeepSeek ที่ต้องเปิดตัวล่าช้า เพราะชิปหัวเว่ยไม่เอื้ออำนวยต่อการฝึกฝน
ที่มา Nikkei Asia, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย