
บรรดานักท่องเที่ยวชาวจีน จำนวนกว่า 3.5 ล้านคน ต่างพากันเลือกเดินทางมายังประเทศเวียดนาม ซึ่งถือเป็นตัวเลขของนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่หนุนสถิติการท่องเที่ยวเวียดนามให้พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ และช่วยให้เวียดนามแซงหน้าไทย ขึ้นแท่นเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวชาวจีน ภายหลังความกังวลเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์และคดีลักพาตัวนักแสดงจีนเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในไทยร่วงลงราว 35% ในปีนี้
กระแสการท่องเที่ยวเวียดนามที่ได้รับความนิยมสูง สะท้อนถึงการปรับสมดุลครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการเสียส่วนแบ่งยอดนักท่องเที่ยวของไทย ซึ่งอาจทำให้ไทยสูญเสียรายได้ถึง 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ไหลไปยังเวียดนามและประเทศเพื่อนบ้าน ตามข้อมูลจาก China Trading Desk ที่ติดตามการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของชาวจีน
ซีอีโอของ China Trading Desk กล่าวว่า “สำหรับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มใหม่นี้ เวียดนามให้ความรู้สึกแปลกใหม่ หลายคนมองว่าเวียดนามยังคงความเป็นท้องถิ่นและมีเสน่ห์ที่แท้จริง”
ในปีนี้ เวียดนามมีนักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่งแตะเกือบ 14 ล้านคน โดยจีนยังคงเป็นตลาดหลัก โดยมีนักท่องเที่ยวกว่า 3.5 ล้านคน ตามด้วยเกาหลีใต้ 2.9 ล้านคน ไต้หวัน 839,000 คน สหรัฐฯ 573,000 คน และญี่ปุ่น 540,000 คน ขณะที่กัมพูชาและอินเดียเกิน 440,000 คน รัสเซีย 376,000 คน และออสเตรเลีย 358,000 คน
ข้อมูลดังกล่าวยังสะท้อนว่า เวียดนามขึ้นแท่นแซงไทยและมาเลเซียในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่ โดยไทยเคยนำโด่งในปี 2019 ด้วยนักท่องเที่ยวจีนกว่า 11 ล้านคน แต่ในปี 2025 เวียดนามได้ขยับขึ้นแซงไทยไปแล้ว โดยมาเลเซียเองก็เร่งขยายตลาดจีนด้วยเช่นกัน ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรก มาเลเซียมีนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 35% โดยจำนวนเที่ยวบินจากสายการบินจีนเพิ่มขึ้นเกือบ 50% เนื่องมาจากการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีนและค่าเงินริงกิตที่อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น ขณะที่บรรดาโรงแรมต่างๆ รายงานว่า มีความต้องการเข้าพักและอัตราการเข้าพักสูงกว่าปีก่อน
ปัจจุบัน รัฐบาลเวียดนามและผู้ประกอบการท่องเที่ยว ต่างเร่งพัฒนากิจกรรมใหม่ๆ เช่น เทศกาลร่มร่อนและบอลลูน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้อยู่เที่ยวได้นานขึ้น โดยเมืองดานังเต็มไปด้วยป้ายภาษาจีนใหญ่โต ทั้งตามโรงแรม ร้านอาหารริมถนน และร้านนวด โรงแรมจ้างพนักงานพูดภาษาจีนกลางหรือใช้แอปแปลภาษาเพื่อติดต่อกับแขก ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนกว่า 40% ล้วนเป็นผู้ที่เดินทางต่างประเทศเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการศึกษาและมองหาประสบการณ์ที่แท้จริง ไม่ต้องการทัวร์แบบหมู่คณะราคาถูกเหมือนก่อน และยอมจ่ายในราคาที่แพงขึ้น
การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนช่วยหนุนยอดขายค้าปลีกด้านท่องเที่ยวของเวียดนามให้พุ่งขึ้น 51% จนถึงเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยนักวิเคราะห์จาก BMI คาดว่าเวียดนามจะทำสถิติใหม่ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว 22.6 ล้านคนในปี 2025 สูงกว่าระดับสูงสุดก่อนโควิดที่ 18 ล้านคนในปี 2019
ขณะที่ บรรยากาศในไทยกลับตรงกันข้าม โดยยอดที่นั่งของเที่ยวบินจากจีนสู่ไทยในช่วง 8 เดือนแรกปี 2025 ลดลงกว่า 11% เหลือ 5.1 ล้านที่นั่ง แม้จีนยังครองตำแหน่งนักท่องเที่ยวกลุ่มหลัก แต่นักท่องเที่ยวที่ลดลงทำให้จำนวนรวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติหดตัว 7% แม้ไทยจะได้แรงหนุนจากตลาดยุโรปและสหรัฐฯ ก็ตาม โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่ารายได้โรงแรมปีนี้จะหดตัว 4.5% และอัตราการเข้าพักก็ลดลงเช่นกัน
ทั้งนี้ เหตุลักพาตัวนักแสดงจีน ที่ถูกลวงมาประเทศไทยและถูกส่งต่อไปเมียนมาโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยังคงทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเกิดความหวาดกลัว นอกจากนี้ ไทยยังสูญเสียชื่อเสียงด้านความคุ้มค่า หลังนักท่องเที่ยวจีนโพสต์ในโซเชียลมีเดียบ่นเรื่องราคาที่พัก อาหาร และค่าแท็กซี่ที่แพงขึ้นหลังยุคโควิด-19
อย่างไรก็ตาม ยังมีความหวังว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะฟื้นตัวในฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงพีกของการท่องเที่ยวไทย
ที่มา: Bloomberg, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย