WTO หั่นคาดการณ์การเติบโตการค้าโลกปี 2026 เหลือ 0.5% เหตุผลกระทบล่าช้าจากภาษีทรัมป์

WTO หั่นคาดการณ์การเติบโตการค้าโลกปี 2026 เหลือ 0.5% เหตุผลกระทบล่าช้าจากภาษีทรัมป์

องค์การการค้าโลก (WTO) ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของปริมาณการค้าสินค้าทั่วโลกในปี 2026 ลงอย่างมาก เหลือเพียง 0.5% จากประมาณการเดิมเมื่อเดือนส.ค. ที่ระดับ 1.8% โดยให้เหตุผลว่า ผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อาจแสดงผลล่าช้ากว่าที่คาดไว้

เอ็นโกซี โอคอนโจ-อิเวียลา (Ngozi Okonjo-Iweala) ผู้อำนวยการใหญ่ของ WTO กล่าวว่า “แนวโน้มสำหรับปีหน้าดูย่ำแย่ลงอย่างชัดเจน ตนรู้สึกกังวลมาก” อย่างไรก็ตาม ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ระบบการค้าพหุภาคีที่มีกฎเกณฑ์รองรับของ WTO ยังคงแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและช่วยสร้างเสถียรภาพบางส่วนให้กับเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางความปั่นป่วนด้านการค้าในปัจจุบัน”

สำหรับปี 2025 WTO ได้ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของปริมาณการค้าสินค้าโลกเป็น 2.4% จากเดิมที่คาดไว้เพียง 0.9% โดยปัจจัยหนุนมาจากการเร่งนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ก่อนการบังคับขึ้นภาษี (front-loading) และการขยายตัวของการค้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI-related goods) อย่างไรก็ตาม อัตราดังกล่าว ยังต่ำกว่าการเติบโต 2.8% ที่เกิดขึ้นในปี 2024

นับตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา มาตรการภาษีของเขา ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดการเงินโลก และเพิ่มความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญ

เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากหลายสิบประเทศ ซึ่งรวมถึง สวิตเซอร์แลนด์ บราซิล และอินเดีย ทำให้หลายประเทศต้องเร่งเจรจาเพื่อขอลดภาษี ส่วนสหภาพยุโรป (EU) สามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ โดยกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรปส่วนใหญ่ไว้ที่ 15%

WTO คาดว่า ปริมาณการค้าสินค้าโลกจะชะลอตัวจาก 2.8% ในปี 2024 เหลือ 2.4% ในปี 2025 และเหลือเพียง 0.5% ในปี 2026 ขณะที่การเติบโตของ GDP โลก จะลดลงเล็กน้อยจาก 2.7% ในปี 2025 เหลือ 2.6% ในปี 2026 โดยโอคอนโจ-อิเวียลา ระบุว่า “มาตรการภาษีได้กดดันการค้า แม้ว่าการเร่งนำเข้าสินค้าและการชะลอขึ้นภาษีระหว่างเดือนเม.ย.–ส.ค. จะช่วยผลักผลกระทบให้ไปอยู่ในช่วงปลายปีนี้และปีหน้า” ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 WTO รายงานว่า ปริมาณการค้าสินค้าโลก (เฉลี่ยระหว่างการส่งออกและนำเข้า) เพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับการเติบโตเพียง 2% ในปี 2024

ด้วยสาเหตุดังกล่าว นักเศรษฐศาสตร์ของ WTO จึงปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของการค้าโลกปีนี้เป็น 2.4% จากเดิมที่คาดว่าจะติดลบ 0.2% โดยระบุว่า การเร่งส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ก่อนการขึ้นภาษี  โดยเฉพาะเครื่องจักร รถยนต์ และไม้แปรรูป รวมถึงความต้องการสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่เพิ่มขึ้น เป็นแรงหนุนสำคัญของการขยายตัวดังกล่าว ซึ่งสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น เซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการเติบโตทางการค้าทั้งหมด โดยมีอัตราขยายตัว 20% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งภูมิภาคเอเชียมีความโดดเด่นเป็นพิเศษในหมวดนี้

ทั้งนี้ ตามรายงานยังระบุว่า เอเชียและแอฟริกา จะเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตของปริมาณการส่งออกสูงที่สุดในปีนี้ ขณะที่ยุโรปจะชะลอลงและอเมริกาเหนือมีแนวโน้มลดลง โดยทุกภูมิภาคจะเผชิญกับการนำเข้าที่อ่อนแอลงในปี 2026

ที่มา: Reuters, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย