อินเดีย ขาดดุลการค้าทำสถิติสูงสุด เหตุนำเข้าทองพุ่ง 200% – ภาษีสหรัฐฯ ฉุดส่งออกทรุด

อินเดีย ขาดดุลการค้าทำสถิติสูงสุด เหตุนำเข้าทองพุ่ง 200% – ภาษีสหรัฐฯ ฉุดส่งออกทรุด

อินเดีย เผชิญกับภาวะขาดดุลการค้า พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนต.ค. หลังการนำเข้าทองคำพุ่งขึ้นกว่า 200% ในช่วงเทศกาลดิวาลี ขณะที่ การส่งออกไปสหรัฐฯ ถูกกดดันจากมาตรการเก็บภาษีในอัตราสูง

ข้อมูลของ LSEG ระบุว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าในเดือนต.ค.ของอินเดีย อยู่ที่กว่า  41,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าประมาณการสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่คาดไว้ที่ 28,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตัวเลขล่าสุดทำลายสถิติเดิมที่ 37,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนพ.ย. 2024

กระทรวงพาณิชย์อินเดีย เปิดเผยว่า นำเข้าทองคำในเดือนต.ค. คิดเป็นมูลค่า 14,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบ 200% จากปีก่อนหน้า โดยประเมินว่า ผู้บริโภคอินเดียซื้อทองคำคิดเป็นมูลค่าราว 11,000 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเทศกาลดิวาลี นอกจากนี้ ผลกระทบจากภาษีศุลกากร ที่สหรัฐฯ เริ่มจัดเก็บในอัตรา 50% ตั้งแต่ปลายเดือนส.ค. ก็ปรากฏชัดเจนเช่นกัน โดยการส่งออกสินค้าอินเดียไปยังสหรัฐฯ ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยเดือนต.ค. การส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลง 8.5% จากปีก่อนหน้า เหลือ 6,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการส่งออกจะลดลง แต่สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของอินเดียในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณนี้ ด้วยมูลค่ารวม 52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ด้านสินค้าส่งออกหลัก อินเดียส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 29.5% ขณะที่การส่งออกสินค้ากลุ่มวิศวกรรมอยู่ที่ 9,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 16.7% ส่วนการส่งออกเส้นใยฝ้าย เส้นใยสังเคราะห์ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ลดลง 12%-13% โดยสหรัฐฯ เป็นตลาดหลักของสินค้าเหล่านี้ทั้งหมด ในทางกลับกัน การส่งออกของอินเดียไปจีน เพิ่มขึ้น 42% แตะ 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ICRA Research บริษัทจัดอันดับเครดิตในเครือมูดี้ส์ ระบุว่า การนำเข้าสินค้าของอินเดีย มีแนวโน้มชะลอลงในช่วงพ.ย.-ธ.ค. 2025 จากระดับสูงผิดปกติในเดือนต.ค. เนื่องจากการนำเข้าทองคำลดลงหลังสิ้นสุดฤดูกาลเทศกาล ขณะที่ การส่งออกอาจฟื้นตัวขึ้นบางส่วน อย่างไรก็ตาม บริษัทย้ำว่า อินเดียกำลังมุ่งหน้าสู่ภาวะขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่ขยายขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สู่ระดับ 2.4%-2.5% ของ GDP ในไตรมาส 3 ปีงบประมาณที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2026 และประเมินว่า อัตราขาดดุลบัญชีเดินสะพัดต่อ GDP ทั้งปีงบประมาณ 2026 จะอยู่ราว 1.2% หากสหรัฐฯ ยังคงจัดเก็บภาษี 50% ไปจนถึงสิ้นเดือนมี.ค. 2026

ทั้งนี้ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับอินเดียยังคงดำเนินต่อเนื่องมานานหลายเดือน แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ โดยทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มส่งสัญญาณอ่อนลง โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมพิจารณาลดภาษีสำหรับอินเดีย

ด้านอินเดียได้เพิ่มการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากสหรัฐฯ เพื่อลดดุลการค้าฝั่งสหรัฐฯ และยังคาดว่าจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ด้วย

ที่มา: CNBC, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย