องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางระหว่างประเทศในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ไม่เพียงแต่เป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา แต่ยังเป็นการเติบโตเกินกว่าที่ UNWTO คาดการณ์ไว้ด้วย
สำหรับการเติบโตของการท่องเที่ยวโลก นำโดยเอเชียและแปซิฟิก เพิ่มขึ้น 8% ยุโรป เพิ่มขึ้น 7% แอฟริกา เพิ่มขึ้น 6% ตะวันออกกลาง เพิ่มขึ้น 4% และอเมริกา เพิ่มขึ้น 3% ขณะที่เมื่อช่วงต้นปี UNWTO เคยคาดการณ์ไว้ว่า ปีนี้การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะเติบโต 4-5%
“ตัวเลขนักท่องเที่ยวเดินทางระหว่างประเทศที่ออกมาสะท้อนการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญทั่วโลก และยังช่วยสร้างงานให้กับเศรษฐกิจในหลายๆ พื้นที่ด้วย โดยการเติบโตนี้เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนว่าเราจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพที่มีอยู่เพื่อรองรับและบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สร้างจุดหมายการท่องเที่ยวที่ชาญฉลาดด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม” Zurab Pololikashvili เลขาธิการ UNWTO กล่าว
ทางด้านตัวเลขนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่นำโดยเอเชียและแปซิฟิกนั้น พบว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เติบโตถึง 10% ขณะที่เอเชียใต้ เติบโต 9% ในส่วนของภูมิภาคที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีขนาดใหญ่มากอย่างยุโรป ก็ยังเติบโตได้แข็งแกร่ง นำโดยจุดหมายปลายทาง ยุโรปตอนใต้ เมดิเตอเรเนียน และยุโรปตะวันตก ซึ่งเติบโตถึง 8%
ในส่วนของการท่องเที่ยวอเมริกาที่เติบโตนั้น นำโดยอเมริกาใต้ เพิ่มขึ้น 8% แต่ทางฝั่งแคริบเบียน ลดลง 9% ถือเป็นภูมิภาคย่อยๆ จุดเดียวที่นักท่องเที่ยวมาลดลงในช่วงเวลานี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากบางจุดหมายปลายทางยังอยู่ในช่วงการฟื้นฟูสภาพหลังเผชิญพายุเฮอริเคนเมื่อเดือน ส.ค.-ก.ย. 2017