ในอีกมุมหนึ่ง สงครามการค้าที่กำลังปะทุระหว่างสหรัฐและจีนเป็นหน้าฉากของการช่วงชิงความเป็นเจ้าของเทคโนโลยี 5จี
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า เทคโนโลยี 5จี จะเป็นหัวใจของแคมเปญของประธานาธิบดีทรัมป์ในการทำให้สหรัฐกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และก็เป็นหัวใจของเป้าหมายของจีนที่จะเป็นผู้นำทางปัญญาประดิษฐ์ภายในปี 2030
5จี เป็นโมบายอินเทอร์เน็ตรุ่นต่อไป สามารถทำให้เราดาวน์โหลดหนังได้โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ช่วยให้เล่นแอพต่างๆ ที่มีความสลับซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะเปิดมิติใหม่ของประสบการณ์โมบายอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้ใช้หรือผู้บริโภค
แต่ความจริงแล้ว5จี เป็นมากกว่าโมบายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพราะว่ามันเป็นเทคโนโลยีที่จะรองรับโครงสร้างพื้นฐานในยุคต่อไป โดยจะเชื่อมโยงอุปกรณ์ที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งเมืองอัฉริยะ (smart cities) หรือรถยนต์ไร้คนขับ(driverless cars) ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
สิ่งที่สหรัฐและจีนกำลังช่วงชิงกันคือระบบมาตรฐานของ5จี ใครจะเป็นผู้เขียนกฎเกณฑ์ นี่คือประเด็นสำคัญที่ซ่อนภายใต้สงครามการค้า America First ของทรัมป์
ระบบโมบายอินเทอร์เน็ตต้องการมาตรฐานอย่างใดอย่างหนึ่งที่ต้องมีข้อตกลงร่วมกันทั้งโลก เพื่อว่าบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เทเลคอม หรือโทรศัพท์มือถือสามารถผลิตอุปกรณ์สินค้าของตัวเองให้สอดคล้องกับระบบมาตรฐานที่รองรับ สเปคมาตรฐานนี้มีการตกลงกันไปแล้วในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
แต่ตอนนี้บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เทเลคอม หรือค่ายผู้ผลิตมือถือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ZTE หรือ Huawei ของจีน หรือค่ายNokia และ Ericsson ของยุโรปกำลังเร่งพัฒนาเข้าสู่ระบบ5จีอย่างเร่งด่วนเพื่อชิงความเป็นผู้นำ
ผู้ผลิตชิปที่เป็นสมองของอุปกรณ์เทเลคอมอย่าง Qualcomm หรือ Intel เข้ามาร่วมวงพัฒนาระบบ 5จี ด้วยตามบทบาทของตัวเอง
นาย Declan Ganley ซีอีโอของบริษัท Rivada Networks บอกว่าหัวใจของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอยู่ที่ประเด็นนี้เอง ว่าใครจะเป็นผู้กำหนด หรือผู้ควบคุมโมเดล รวมทั้งโครงสร้างสถาปัตยกรรม หรือวาระของ 5จี ทั้งนี้เป็นเพราะ 5จีเป็นมหาสมุทรลึกสีน้ำเงินของขอบเขตไซเบอร์
นายเกนเลย์ ไปไกลถึงขนาดบอกว่า เรื่องการควบคุมโมเดลของ 5จีจะมีความสำคัญมากกว่าการควบคุมเส้นทางการเดินเรือ หรือเส้นการการเดินอากาศเสียอีก
แล้วระหว่างจีนและสหรัฐ ใครจะเป็นผู้ชนะในเกมครองความเป็นเจ้าของเทคโนโลยี 5จี?