ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกบทความ FAQ Issue ประจำเดือน ก.ค. ซึ่งเขียนโดย มณีรัตน์ ก้องเสียง เศรษฐกร สายนโยบายการเงิน ธปท. โดยได้สรุปสถานการณ์อุปสงค์ชาวต่างชาติต่ออาคารชุดไทย โดยระบุว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะชาวจีน ซึ่งมีส่วนช่วยทดแทนอุปสงค์ในประเทศที่ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ทำให้อาคารชุดคงค้างในตลาดไม่ปรับเพิ่มขึ้นมากนัก ซึ่งเป็นการซื้อเพื่ออยู่เองและลงทุนปล่อยเช่าเป็นหลัก
ทั้งนี้ ยังไม่พบสัญญาณว่าอุปสงค์ชาวต่างชาติจะทำให้ราคาอาคารชุดเร่งขึ้นและกระทบความสามารถในการซื้ออาคารชุดของผู้ซื้อในประเทศ ขณะที่ภาคสถาบันการเงินไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ชาวต่างชาติมากนัก เนื่องจากข้อกำหนดของไทยไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติกู้เงินจากสถาบันการเงินในประเทศมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้โดยเสรี
ทางด้านความกังวลว่าผู้ประกอบการจะเปิดโครงการใหม่เพื่อเน้นขายลูกค้าต่างชาติมากเกินไป ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาอุปทานล้นตลาดในอนาคตได้หากเกิดภาวะช็อคกับอุปสงค์ชาวต่างชาตินั้น จากการประเมินพบว่าความกังวลดังกล่าวยังมีไม่มาก เนื่องจากผู้ประกอบการยังค่อนข้างระมัดระวังในการเปิดโครงการใหม่ และเน้นขายผู้บริโภคในประเทศเป็นหลัก
สำหรับ อุปสงค์ชาวต่างชาตินี้ประเมินจากมูลค่าการซื้อเงินบาทของชาวต่างชาติเพื่อชำระค่าอาคารชุด และมูลค่าการถอนเงินจากบัญชีเงินบาทของชาวต่างชาติเพื่อซื้ออาคารชุด โดยพบว่า มูลค่าเงินโอนเพื่อซื้ออาคารชุดปี 2017 อยู่ที่ 70,758 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ซึ่งมี 53,259 ล้านบาท หรือขยายตัว 33% สูงกว่าการขยายตัวในปี 2012-2016 ที่เติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี หากสมมติให้เงินโอนสะท้อนยอดโอนกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติทั้งหมด พบว่า สัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติในปี 2017 คิดเป็น 27% ของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดทั่วประเทศ สูงกว่าปี 2016 ซึ่งอยู่ที่ 21%