เอเชียเป็นแหล่งอารยธรรมของโลก จากเมโซโปเทเมีย อินเดีย จีน สู่ดินแดนสุวรรณภูมิ หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดินแดนตะวันออกได้ให้กำเนิดศาสนา ลัทธิ ปรัชญา วัฒนธรรมชั้นสูง ความรู้และภูมิปัญญา ที่เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก
ยิ่งกว่านั้น ชนชาติในเอเชียยังใช้การพูดภาษาเดียวกัน นั้นคือภาษาของใจที่มีความเมตตา เราได้รับการสอนให้รู้จักการให้มากกว่าการรับ เราได้รับการสอนให้รู้จักการสร้างความสมดุลระหว่างการมุ่งสู่จิตที่บริสุทธิ์มากกว่าการแสวงหาวัตถุ เราได้รับการสอนให้อยู่ในความกลมกลืนกับธรรมชาติ
ภูมิปัญญาต้นแบบนี้ได้นำวัฒนธรรมต่างๆของเอเชียมารวมกัน และคำสอนที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมดนี้ เราสามารถพบได้ในจีน ซึ่งเป็นบ่อเกิดอารยธรรมของโลก
ลัทธิเต๋าเป็นปรัชญาและศาสนาพื้นเพของจีน ซึ่งเน้นการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายกลมกลืนกับวิถีชีวิตของเต๋าหรือวิถีของธรรมชาติ สิ่งที่ดีสำหรับเต๋าคือสิ่งที่เรียบง่าย ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย เต๋าสอนให้มีความเมตตา ความสมถะ และความอ่อนน้อมถ่อมตน ลัทธิขงจื้อ เป็นอีกรากฐานทางด้านจริยธรรมและปรัชญาที่ยิ่งใหญ่ โดยการวางหลักทางสังคมที่มีความกลมเกลียว มีพิธีกรรม การเคารพบูชาบรรพบุรุษ รักษาประเพณี มีความภักดีต่อครอบครัว รวมทั้งหน้าที่และความรับผิดชอบระหว่างผู้ปกครองและสมาชิก
หนึ่งในกฎทองของขงจื้อคือ : “สิ่งใดที่คุณไม่ต้องการสำหรับตัวคุณเอง คุณก็ไม่ควรทำกับคนอื่นๆ”
จีนยอมรับในพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาที่มีการปฏิบัติกันอย่างแพร่หลายในดินแดนสุวรรณภูมิหรือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พระพุทธศาสนาสอนให้เรากลายเป็นคนที่ปราศจากอัตตาในตัวเอง สอนให้มีความเมตตาต่อมนุษย์คนอื่นๆ และให้ความสำคัญทางจิตวิญญาณ การสะสมบุญบารมี อริยทรัพย์ การตรัสรู้และการพ้นทุกข์หรือนิพพาน
ในประเทศไทย แม้จะมีหน่วยงานทางการเมือง แต่คนไทยก็ตระหนักดีว่า วิธีที่ดีที่สุดในการก้าวไปข้างหน้า คือการปรองดองและความสามัคคีของคนในชาติ ภาพของ “อาสาสมัคร” ในช่วงงานพระบรมศพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่ทุกคนช่วยกันทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยถือเป็นการประนีประนอมแห่งชาติก็ว่าได้ ไม่มีความแตกแยกทางสีทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีเหลือง สีดำหรือสีใดๆ เช่นในอดีต
จีน กำลังเริ่มโครงการที่จะฟื้นฟูเส้นทางสายไหมใหม่ ซึ่งขณะนี้อย่างน้อย 70 ประเทศและองค์กรต่างๆได้ตกลงที่จะเข้าร่วมด้วย ในความพยายามครั้งยิ่งใหญ่นี้ เพื่อสร้างโครงการ One Belt One Road ให้สำเร็จ จะมีการลงทุน ด้านสาธารณูปโภคมูลค่านับล้านล้านเหรียญ ดังนั้น มันจึงเป็นโอกาสอันดีที่จะนำพาประเทศต่างๆ มารวมตัวเพื่อทำงานร่วมกัน เพื่อปรองดองอดีตและเริ่มต้นอนาคตอันใหม่
เส้นทางสายไหมใหม่ จะเชื่อมเอเชีย ยุโรปและแอฟริกาเข้าด้วยกันทางรถไฟ ทางถนน และทางทะเล นี่คือสัญญาณแห่งยุคใหม่ของการเติบโตอีกก้าว และความมั่งคั่ง ที่จะนำพาชนชาติทั้งสามทวีปมารวมตัวกัน สิ่งนี้จะไม่เป็นจริงและสำเร็จได้หากไร้สันติภาพและความร่วมมือจากทุกประเทศ
เป็นเวลากว่าพันปี ก่อนการเข้ามาของอาณานิคมตะวันตก ประเทศจีนและอินเดียเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตามประเทศส่วนใหญ่รวมทั้งจีนและอินเดียต่างเผชิญกับความถดถอยในยุคล่าอาณานิคม ทวีปอเมริกา ทวีปแอฟริกา และทวีปเอเชียถูกกดขี่ ทรัพยากรธรรมชาติของพวกเขาถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งของเจ้าอาณานิคม และในขณะเดียวกัน ในเอเชียเช่นเดียวกับภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ก็มีความเข้าใจผิดระหว่างกัน มีความขัดแย้งทางการเมือง ความขัดแย้งระหว่างชายแดน และสงครามที่เกิดขึ้นจำนวนมาก แต่เส้นทางสายไหมที่ได้รับความร่วมมือจาก ทวีปยุโรป และทวีปแอฟริกา, ทวีปเอเชีย กำลังจะกลับคืนมาสู่ความรุ่งโรจน์เช่นในอดีต ไม่ใช่จากการเอาแต่จากการให้
มีข้อสงสัยเบื้องต้นเกี่ยวกับเส้นทางของถนนใหม่ที่อาจจะให้ประโยชน์แก่บริษัท จีนและสถาบันการเงินจีนโดยเฉพาะ หรือจีนต้องการจะพิชิตโลกเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่จีนได้อธิบายอย่างเหมาะสมว่าแม้เส้นทางสายไหม (Silk Road) จะเป็นความคิดริเริ่มของจีน แต่เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งประเทศผู้เข้าร่วมทุกคนมีบทบาทที่เท่าเทียมกันในการมีส่วนร่วมในความสำเร็จนี้ แม้แต่จิ๊กซอว์ที่ขาดหายไปตัวใดตัวหนึ่งจะทำให้เกิดการสะดุดในโครงการ New Silk Road อันเนื่องมาจากลักษณะการเชื่อมโยงของโครงการนั้นเอง เส้นทางสายไหมจะช่วยสร้างความก้าวหน้าและช่วยทำให้ประเทศเจริญขึ้น เมื่อประเทศใดที่เจริญร่ำรวยขึ้นก็ต้องช่วยเพื่อนบ้านให้เจริญและรวยขึ้นเช่นเดียวกัน
นี่คือจิตวิญญาณของความกลมเกลียวทางวัฒนธรรม
เมื่อเราย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ เพื่อศึกษาและอ่านเกี่ยวกับ เจิ้งเหอที่ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งเป็นนักสำรวจ นักการทูต ผู้บัญชาการเดินเรือ และเป็นขันทีในราชวงศ์หมิง เราสามารถพบได้ว่า สิ่งที่เจิ้งเหอทำในช่วงเวลาของเขาก็คล้ายกับสิ่งที่เส้นสายไหมของวันนี้กำลังพยายามที่จะบรรลุเป้าประสงค์
เจิ้งเหอและกองเรือที่มีแสนยานุภาพที่เกรียงไกรส่งสัญญานแห่งสันติภาพ การทูต การติดต่อระหว่างประชาชน และการค้าในระหว่างการเดินทางที่ยาวนานถึง 28 ปี ไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เอเชียใต้, เอเชียตะวันตก และแม้แต่ทางแอฟริกาตะวันออก ช่วงเวลาของเจิ้งเหอเกิดก่อนที่คริสโตเฟอร์โคลัมบัสจะค้นพบทวีปอเมริกาเสียอีก ซึ่งต่อมาอเมริกาได้กลายเป็นอาณานิคม
เราไม่เห็นความพยายามใดๆ จากเจิ้งเหอ หรือราชวงศ์หมิงที่จะเอาประเทศอื่นเป็นอาณานิคม ในประเทศไทยมีเพียงศาลเพียงตาหลายแห่งที่ตั้งขึ้นเพื่อเคารพและนมัสการเจิ้งเหอตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยาจนถึงเมืองหลวงเก่าของกรุงศรีอยุธยา ที่ซึ่งเรือของเจิ้งเหอเคยจอดทอดสมออยู่
ไม่มีช่วงเวลาที่ดีในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ที่เป็นช่วงเวลาของการสร้างจิตวิญญาณแห่งสันติภาพและการปรองดองมากกว่าวันนี้ ปัญหาของโลกปัจจุบัน คือการเอาเปรียบกันและความไม่เท่าเทียมกัน นั่นเป็นเพราะบางประเทศต้องการที่จะเอามากกว่าที่จะให้ มีพอแล้วแต่ไม่เคยพอ
ดังนั้น The New Silk Road จึงสามารถเป็นตัวอย่างของการให้และแบ่งปันได้มากกว่าการเอาแต่ฝ่ายเดียว โครงการนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากการมีส่วนร่วม ร่วมมือและร่วมใจอย่างจริงใจ จากทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง แน่นอนว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะทำความก้าวหน้าและรู้จักการแบ่งปัน