สมาคมบล็อกเชนแห่งอินโดนีเซีย มองบล็อกเชนจะเข้ามาเพิ่มโอกาสและพัฒนาภูมิภาคอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสังคมอาเซียนเหมาะสำหรับการเติบโตของเทคโนโลยีที่พร้อมจะเปลี่ยนโลกอย่างบล็อกเชน
นายสตีเวน ซูฮาดี ประธานสมาคมบล็อกเชนแห่งอินโดนีเซีย กล่าวว่า ภูมิภาคอาเซียนมีขีดความสามารถก้าวทันและทัดเทียมประเทศยักษ์ใหญ่ด้านดิจิทัลอย่าง จีน สหรัฐอเมริกา หรือยุโรป เพราะมีความพร้อมเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันอยู่ตลอดเวลา
เขามีมุมมองว่า เราอยู่ในจุดที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการพึ่งพาบล็อกเชนหรือเทคโนโลยีพลิกโฉมอื่นได้ รัฐบาลจำเป็นต้องเข้ามามีส่วนร่วมและรับมือ ในปัจจุบัน มีเงินตราที่หมุนเวียนในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น ผ่านบริการธุรกรรมออนไลน์ เช่น วีแชท เพย์ หรือ แอปเปิ้ล เพย์ ดังนั้น ยิ่งมีการชำระเงินบนแพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้นเท่าไร ผู้คนจะยิ่งคุ้นชินกับเงินดิจิทัลมากขึ้นเท่านั้น และจะเอื้อสู่การใช้บล็อกเชนด้วย รัฐบาลจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือละเลย แต่ต้องเข้ามาออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมและกำกับดูแล
ทั้งนี้ บล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลกำลังได้รับความนิยมก้าวกระโดดในอินโดนีเซีย และดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาทดลองทำธุรกิจ เนื่องจากอินโดนีเซียเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพ มีประชากรมากกว่า 260 ล้านคน และมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก ประกอบกับอายุเฉลี่ยประชากรอยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาว ดังนั้น นักลงทุนจึงหลั่งไหลเข้ามาทำธุรกิจสตาร์ทอัพ อี-คอมเมิร์ซ บล็อกเชน และการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ขณะที่ อินโดนีเซีย เป็นประเทศเป็นหมู่เกาะน้อยใหญ่ มีภาษาถิ่นเฉพาะ การนำเทคโนโลยีมาเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำธุรกรรม การค้า หรือพาณิชย์ ก็จะช่วยลดต้นทุนเวลาและพลังงานมหาศาล ส่งผลให้การดำเนินการต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว