By…จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
เทคโนโลยีนั้นเป็นเครื่องมือหลักที่จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ มีโอกาสไปต่อได้ในวันข้างหน้า ธุรกิจใดเพิกเฉยต่อเทคโนโลยีก็อาจจะอยู่รอดยากในยุคถัดไป อย่างเช่นในภาคธุรกิจท่องเที่ยว แม้จะจัดอยู่ในกลุ่มการบริการที่ยังจำเป็นต้องอาศัยทักษะของคนซึ่งเป็นผู้ให้บริการอยู่ แต่ก็ปฏิเสธการใช้เทคโนโลยีไม่ได้เช่นกัน เพราะนี่คือเครื่องมือที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้
ในเว็บไซต์ของงานมหกรรมท่องเที่ยวโลก หรือเวิลด์ ทราเวล มาร์เก็ต ลอนดอน ได้นำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจเอาไว้เกี่ยวกับเทคโนโลยี โดยเรื่องนี้ มาจาก Paul Richer หุ้นส่วนอาวุโส ของบริษัท Genesys ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญด้านการให้คำแนะนำเทคโนโลยีสำหรับภาคท่องเที่ยวและบริการ
เขามองเห็นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเหมือนกับอุตสาหกรรมข้อมูล เมื่อการซื้อเกิดขึ้นแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ขายไปก็เหมือนเป็นข้อมูลที่อยู่บนระบบคอมพิวเตอร์ สิ่งนี้ถูกส่งให้กับลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่ายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ราคา จำนวนที่ว่าง หรือคำอธิบายผลิตภัณฑ์ล้วนสามารถถูกโหลดออกมาได้ผ่านฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ และสามารถถูกหยิบไปขายได้ทั่วโลกถ้าคุณทำได้
นอกจากนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ยังเป็นเหมือนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาพเอามากๆ เราได้เห็นการแสดงมากมาย ลูกค้านั้นต่างก็กระหายที่จะเห็นภาพและภาพเหล่านี้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะโน้มน้าวใจให้ลูกคามาซื้อผลิตภัณฑ์ได้ แต่ก็มีข้อยกเว้นบ้าง เช่น การเดินทางทางอากาศ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือผู้ประกอบการจะพึ่งพาเว็บไซต์ของตัวเอง เว็บไซต์ของพันธมิตรที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ เพื่อการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างไร
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาว่า เว็บไซต์นั้นเป็นประตูบานสำคัญมากสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งสิ่งที่มองว่า ในปี 2019 นี้ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจำเป็นต้องมีบนเว็บไซต์ ประกอบด้วย
1.ภาพถ่าย
Daniel Wishnia ซึ่งเป็นที่ปรึกษาการตลาดดิจิทัลของกลุ่มโรงแรม GCH เป็นคนหนึ่งที่ถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ได้ดี เขาแบกกล้องที่เก็บภาพ 360 องศาไปเพื่อเก็บภาพรอบๆ ตัว เพราะภาพแบบ 360 องศานั้น จะแสดงให้เห็นบรรยากาศโดยรอบทั้งหมดไม่ว่าในสถานที่ไหนๆ เช่น ล็อบบี้ของโรงแรม ในแบบที่ภาพถ่ายแบนๆ ราบเรียบทำไม่ได้ โดยเชื่อว่า ภาพถ่ายขั้นสูงและวิดีโอนั้น จะเป็นแรงโน้มน้าวสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเลือกโรงแรมหรือผลิตภัณฑ์ได้
2.เมตะเสิร์ช หรือการใช้หลายๆ วิธีช่วยค้นหาข้อมูล
เป็นอีกหนึ่งประเด็นใหญ่ที่เป็นต้นทุนของการทำโฆษณาออนไลน์ ซึ่งถ้าไม่ได้รับมือให้ดี ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจะบานปลายจนไม่ได้ผลตอบแทนที่เป็นบวกกลับมา จึงควรควบคุมต้นทุนให้อยู่ในระดับปกติ โดยตัวอย่างที่น่าสนใจคือ Filippo Fasolo ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Adshotel ที่ได้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นตัวขับเคลื่อนการบริหารจัดการเมตะเสิร์ช เช่น กูเกิล และทริวาโก ซึ่งอัลกอริธึ่มที่เขาได้พัฒนานั้น ทำให้เกิดผลเชิงเศรษฐกิจ สามารถผลักดันยอดขายได้เองโดยตรงมากกว่าที่จะขายผ่านตัวแทนขาย เช่น บรรดาตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวออนไลน์ใหญ่ๆ
3.เนื้อหาทางการตลาด
ความสำเร็จของการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหา (SEM) และการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหา (SEO) นั้น ต้องมาจากการมีเนื้อหาที่ถูกต้อง โดยในส่วนของ SEM คุณจะต้องจ่ายค่าโฆษณา และถ้าเนื้อหาที่คุณนำเสนอไม่ดึงดูดใจเพียงพอ เงินที่จ่ายไปเพื่อให้มาคลิกนั้นก็อาจจะไม่คุ้มค่ากับยอดการจองที่เกิดขึ้นตามมา และในด้าน SEO นั้น คุณจะต้องมีเนื้อหาที่สดใหม่ตลอดเวลาบนเว็บไซต์ โดยใช้คำที่ใช่ จึงจะช่วยเพิ่มอันดับของคุณที่ลูกค้าจะหาเจอได้เวลาค้นหาข้อมูล และทำให้คุณอยู่เหนือคู่แข่ง
เหล่านี้คือเรื่องราวส่วนเล็กๆ ที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องรู้ ต้องมีเพื่อรับมือกับผู้บริโภคยุคดิจิทัล เพราะถ้าไม่มีตกยุคไม่รู้ตัว
ที่มา : https://news.wtm.com/must-have-web-technologies-for-2019/