NNA ได้สำรวจความคิดเห็นของบริษัทญี่ปุ่นที่เข้ามาดำเนินกิจการอยู่ในภูมิภาคเอเชีย พบว่า บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่วิตกกังวลเรื่องการขึ้นค่าจ้างแรงงานในประเทศต่างๆ มากที่สุด ขณะเดียวกันก็มองว่า การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะนับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างความเสี่ยงให้การดำเนินกิจการของบริษัท
ผลสำรวจดังกล่าวเป็นการสำรวจความคิดเห็นบรรดาเจ้าหน้าที่ของบริษัทญี่ปุ่นที่ดำเนินกิจการอยู่ในเอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และออสเตรเลีย รวม 630 คน โดยสอบถามถึงความวิตกกังวลหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมด 13 ปัจจัย ครอบคลุมปัจจัยด้านภาษีและพิกัดอัตราศุลกากร ความมีเสถียรภาพทางการเมือง และความปลอดภัย ซึ่งพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 479 คน ระบุว่า ปัจจัยด้านแรงงานเป็นภัยคุกคามที่พวกเขากังวลมากที่สุด
ขณะที่ บริษัทญี่ปุ่นที่ดำเนินกิจการอยู่ในสิงคโปร์ 91% ระบุว่า สิ่งที่พวกเขากังวล คือ การขาดแคลนแรงงานฝีมือ โดยเฉพาะแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี
ส่วนบริษัทญี่ปุ่นในไทย 86% กล่าวว่า พวกเขากังวลต้นทุนค่าแรง เช่นเดียวกับบริษัทญี่ปุ่นในเกาหลีใต้ที่กังวลเรื่องนี้ถึง 84% และบริษัทญี่ปุ่นในอินโดนีเซียสูงถึง 83% นอกจากนี้ 80% ของผู้ตอบแบสอบถามที่เป็นตัวแทนจากบริษัทญี่ปุ่นในแต่ละประเทศ อย่างออสเตรเลีย มาเลเซีย และเวียดนาม ระบุว่า ต้นทุนแรงงานเป็นสิ่งที่พวกเขากำลังกังวลเช่นกัน
รายงานยังระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มาจากบริษัทญี่ปุ่นในจีน 77% แสดงความกังวลถึงค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลจีนกำลังพยายามจำกัดการไหลเข้าของแรงงานชนบทที่เข้ามาทำงานในเมือง และขณะเดียวกัน 48% ของผู้เข้าร่วมการสำรวจยังมองอีกว่าเรื่องภาษีและพิกัดอัตราศุลกากรในจีนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่พวกเขาต้องเผชิญ ขณะที่ข้อพิพาทการค้าระหว่างจีนและสหรัฐยังคงยืดเยื้อต่อไป
นอกจากนี้ 45% ของผู้ตอบแบบสอบถามยังมองว่า ปัจจัยเรื่องภาษีและพิกัดอัตราศุลกากรเป็นความเสี่ยงที่พวกเขากังวล ขณะที่ 45% มีความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และอีก 42% วิตกกังวลถึงความเสี่ยงเรื่องระบบกฎหมาย