By…ทนง ขันทอง
เทนเซ็นต์ไม่หวั่นแม้จีนเข้มงวดกับวิดีโอเกมส์
ในงาน “17th Annual dbAccess China Conference” จัดโดยดอยช์แบงก์ ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน เมื่อวันที่ 14-15 ม.ค. ที่ผ่านมา James Mitchell หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ของบริษัท เทนเซ็นต์ ของจีนได้รับเชิญให้มาเล่าให้ฟังในการเสวนาช่วงรับประทานอาหารกลางวัน เกี่ยวกับทิศทางด้านเทคโนโลยีของบริษัท ซึ่งเป็นเจ้าของแอปพลิเคชัน WeChat ที่มีผู้ใช้มากถึง1,000 ล้านคน และเป็นบริษัทเทคโนโลยีใหญ่อันดับ 2 ของจีนเคียงคู่กับบริษัท อาลีบาบา
ที่ผ่านมาหุ้นของเทนเซ็นต์ถูกเทขายหนักเหมือนหุ้นบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ โดยราคาหุ้นร่วงจาก 480 ดอลลาร์ฮ่องกง ในเดือน ม.ค. 2018 มาอยู่ที่ 250 ดอลลาร์ฮ่องกง ในเดือน ต.ค.2018 เนื่องจากพิษของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนทำให้อารมณ์ของนักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจ ส่วนสัปดาห์ที่ผ่านมาหุ้นของเทนเซ็นต์อยู่ที่ระดับประมาณ 320 ดอลลาร์ฮ่องกง
Mitchell ไม่ได้แสดงความกังวลใจมากนักเกี่ยวกับท่าทีของรัฐบาลจีนที่มีความเข้มงวดกวดขันมากขึ้นกับวิดีโอเกมส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของเทนเซ็นต์ โดยบอกว่ารัฐบาลจีนมีนโยบายที่จับต้องได้
ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้อนุมัติวิดีโอเกมส์รอบที่ 3 หลังจากที่ได้แช่แข็งวิดีโอเกมส์มาเกือบ 1 ปี ปรากฎว่า ไม่มีรายชื่อของเกมส์ที่เทนเซ็นต์เสนอเข้าไปให้รัฐบาลอนุมัติ และคู่แข่งของเทนเซ็นต์ คือ NetEase ก็ไม่ได้เหมือนกัน
ล่าสุดรัฐบาลจีนอนุมัติ 93 เกมส์ ที่ต้องควบคุมอย่างหนัก เนื่องจากจีนเป็นตลาดวิดีโอเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีคนเล่นมากถึง 620 ล้านคน และมีการใช้เงิน 37,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการเล่นวิดีโอเกม ทั้งบนมือถือและเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
สาเหตุที่ต้องมีการควบคุม และไม่อนุมัติวิดีโอเกมส์ใหม่ออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือน มี.ค. 2018 ทำให้หุ้นของเทนเซ็นต์ ได้รับผลกระทบอย่างมาก จากปัจจัยนี้ในไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว เนื่องจากมีเสียงเรียกร้องและมีความกังวลใจเกี่ยวกับเนื้อหาที่รุนแรง และวิดีโอเกมส์ทำให้คนติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่วัยรุ่น โดยที่ Honour of Kings เป็นเกมส์บนมือถือที่ทำรายได้มากที่สุดให้เทนเซ็นต์
Mitchell มองว่าโอกาสของธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีมาก และจีนเพิ่งจะอยู่ในจุดเริ่มต้นเมื่อเทียบกับสหรัฐและยุโรป โดยจีนได้วางตำแหน่งเพื่อที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์
รายได้ของเทนเซ็นต์ครึ่งหนึ่งมาจากการให้บริการองค์กร เช่น ระบบคลาวด์และระบบชำระเงิน Tenpay มีร้านค้าที่รองรับถึง 10 ล้านแห่ง เหมือนกับอาลีเพย์ เมื่อรายได้เพิ่มปีที่แล้วทำให้เทนเซ็นต์เล็งเห็นร้านค้าระดับใหญ่ใน Tenpay ต่อไปสามารถเป็นลูกค้าสำหรับการโฆษณาได้ ขณะที่ Tenpay เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ชำระเงินผ่านออนไลน์และข้ามประเทศได้