เว็บไซต์สภาเศรษฐกิจโลกนำเสนอบทความ 10 สตาร์ทอัพที่ช่วยเปลี่ยนโลกอาหรับ โดยระบุว่า ระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพในโลกอาหรับ รองรับการขยายตัวของผู้ประกอบการทั่วภูมิภาค สอดคล้องกับที่มีการเปิดตัวสตาร์ทอัพ 100 รายชื่อที่น่าตื่นตาตื่นใจในโลกอาหรับ สตาร์ทอัพเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญช่วยปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของคนอาหรับ นำภูมิภาคนี้ไปสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 และไกลกว่านั้น โดย Mirek Dusek รองหัวหน้าศูนย์ภูมิศาสตร์การเมืองและภูมิภาค สภาเศรษฐกิจโลก กล่าวว่า โลกอาหรับต้องการนักลงทุนภาคเอกชนเข้าไปเติมเต็มปัญหาการว่างงานของคนรุ่นใหม่ ปิดช่องว่างทักษะสำหรับยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 และดึงผู้หญิงเข้ามามีบทบาทในการทำงานมากขึ้น
สำหรับตัวอย่างสตาร์ทอัพที่เปลี่ยนโลกอาหรับได้ ได้แก่ 1.Careem แอปพลิเคชันการขับขี่แบบแบ่งปัน 2. Amal Glass อุปกรณ์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ช่วยเหลือคนตาบอด หรือผู้ที่มีปัญหาการมองเห็น ให้ใช้ชีวิตได้ดีขึ้น 3.MonoJo ทำด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ คิดค้นผลิตภัณฑ์รักษาสิวและการติดเชื้อทางเดินอาหารแบบเฉียบพลันโดยใช้แอนติบอดี้จากนมอูฐ 4.Derq รวบรวมอุบัติเหตุบนท้องถนน ใช้เทคโนโลยีเอไอและการสื่อสารกับยานพาหนะ เพื่อคาดการณ์และป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน คอยติดตามพฤติกรรมขับรถ และเตือนหากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดอันตราย 5.Epilert อุปกรณ์สวมใส่ช่วยให้ผู้คนอยู่อย่างปลอดภัยมากขึ้น โดยนำเทคโนโลยีเอไอมาสวมข้อมือทำงานกับสมาร์ทโฟนเพื่อติดตามข้อมูลสุขภาพ ใช้เทคโนโลยีเรียนรู้ด้วยเครื่องคาดการณ์เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น พร้อมส่งต่อข้อมูลให้แพทย์ที่ดูแลสุขภาพ
6.Searchie จับคู่งานและผู้สมัครงาน โดยใช้เอไอและการสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอเพื่อประเมินบุคลิกภาพ ความสามารถที่มี ความคล่องตัว ทักษะการเรียนรู้ วามเป็นผู้นำ และวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับองค์กร 7.Bekia ให้ผู้คนค้าขายสินค้าในครัวเรือน ของเหลือใช้ แลกกับอาหารและของใช้ในประเทศ 8.Desert Control Middle East นำเสนอเทคโนโลยีดินเหนียวนาโนเพื่อเพิ่มการเก็บกักน้ำ เปลี่ยนทะเลทรายให้เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์สำหรับการปลูกพืชผล
9.Shamsina ธุรกิจเพื่อสังคมมีเป้าหมายขจัดความเหลื่อมล้ำด้านพลังงาน ออกแบบพลังงานแสงอาทิตย์ราคาไม่แพงให้ชุมชนสร้างพลังงานเองได้ 10.Proximie เทคโนโลยีภาพเสมือนจริง (เออาร์) เพื่อเชื่อมต่อกับศัลยแพทย์ในประเทศพัฒนาแล้ว และ 11.Coded พัฒนาการศึกษาผ่านออนไลน์