ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ระบบคอมพิวเตอร์ของ Travelex บริษัทตัวกลางแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ล่มลงเป็นเวลามากกว่าสัปดาห์นับตั้งแต่ถูกโปรแกรมประสงค์ร้ายโจมตีในช่วงก่อนวันปีใหม่ ซึ่งเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบทำให้ธนาคารขนาดใหญ่ต่างๆ เช่น ลอยด์ บาร์เคลย์ส เอชเอสบีซี และโรยัล แบงก์ ออฟ สก๊อตแลนด์ รวมถึงธนาคารอื่นๆ ไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการทำธุรกรรมได้
ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อรายย่อยขนาดใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะอังกฤษถูกบังคับให้หยุดกระบวนการส่งคำสั่งซื้อขายเงินตราต่างประเทศ หลังจากที่มีโปรแกรมประสงค์ร้ายโจมตีทางไซเบอร์กับผู้ให้บริการอย่าง Travelex
แฮกเกอร์ ออกมาเรียกค่าไถ่จำนวน 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อแลกกับข้อมูลของลูกค้าที่ถูกแฮกเกอร์เข้ารหัสเอาไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดี Travelex ระบุว่า ระบบเข้าสู่สภาวะควรระมัดระวัง หลังจากถูกไวรัสเล่นงาน ทั้งยังระบุด้วยว่า ข้อมูลของลูกค้าไม่ได้ถูกบุกรุกแต่อย่างใด
“เรากำลังถูกไวรัสเล่นงาน และเรากำลังทำงานเพื่อกู้คืนระบบ รวมถึงทำให้ระบบปฏิบัติการกลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ส่วนสาขาเครือข่ายของ Travelex ยังให้บริการแลกเปลี่ยนเงินได้ตามปกติ” Travelex ชี้แจง
สำหรับการโจมตรีครั้งนี้ มาจากกลุ่มโปรแกรมประสงค์ร้ายที่ชื่อว่า Sodinokibi โดยแฮกเกอร์ บอกกับบีบีซี ว่า พวกเขาได้ดาวน์โหลดข้อมูลของลูกค้ารวมกว่า 5 กิกะไบต์ และวางแผนที่จะขายมันทางออนไลน์ใน 6 วัน หาก Travelex ไม่ยอมจ่ายค่าไถ่ที่เรียกไป
ขณะที่ Travelex ระบุว่ากำลังหารือประเด้นนี้กับสำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติอังกฤษ (NCA) และตำรวจนครบาลลอนดอน ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานนี้กำลังดำเนินการสอบสวนเพื่อดำเนินการทางอาญาอยู่
ด้านธนาคารต่างๆ ได้ออกเอกสารขอโทษลูกค้าที่ไม่ได้รับควมสะดวก จากการใช้บริการเงินเพื่อการท่องเที่ยวที่อยู่ในเว็บไซต์ดังกล่าว