ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ขณะนี้นักเศรษฐศาสตร์จากหลายๆ สำนัก เริ่มทยอยปรับลดประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีน ปีนี้ หลังจากที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาดส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายเมืองต้องหยุดชะงักลง เช่น ต้องปิดโรงงานยาวนานขึ้น จากการที่จีนขยายวันหยุดช่วงตรุษจีน และการขยายวันหยุดก็ยังมีต่อในบางพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้ ภาคบริการของจีนก็ได้รับผลกระทบจากการที่ผู้คนต้องเก็บตัวอยู่ในบ้าน ภาพยนตร์ใหม่ที่มีกำหนดเข้าฉายช่วงตรุษจีนก็ต้องยกเลิกไป ทั้งที่ช่วงเวลานี้เป็นฤดูการที่ผู้บริโภคใช้จ่ายมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม บางคนคาดการณ์ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จีนจะออกมาจะช่วยชดเชยผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้
เมื่อปี 2019 จีดีพีของจีนทั้งปีเติบโต 6.1% ชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้าซึ่งเติบโต 6.6%
นักเศรษฐศาสตร์ของรัฐบาลจีน ระบุว่า เศรษฐกิจไตรมาสแรกของจีน อาจจะเติบโตลดลงเหลือ 5% หรืออาจจะต่ำกว่านี้ ขึ้นอยู่กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ส่วน ANZ ยังคงประมาณการเศรษฐกิจจีนทั้งปีนี้ว่าจะเติบโตที่ 5.8% แม้ว่าจะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไตรมาสแรกของจีนปีนี้ว่าจะเติบโตลดลงเหลือ 5% จากเดิมคาดไว้ 5.9%
ส่วนซิตี้ ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจจีนทั้งปีนี้ว่าจะเติบโต 5.5% จากเดิมคาดไว้ 5.8% ด้าน ดิ อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (EIU) ระบุว่า โรคระบาดนี้จะทำให้จีดีพีที่แท้จริงของจีนในปีนี้ ลดลง 0.5-1% จากที่เคยประมาณการว่าจีดีพีจะเติบโต 5.9% ขณะที่ Macquarie ปรับลดประมาณการจีดีพีจีนไตรมาสแรกจาก 5.9% เหลือ 4% ส่วนจีดีพีจีนทั้งปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 5.6% ลดลงจากประมาณการเดิมที่มองไว้ 5.9% ภายใต้สมมติฐานว่า สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้