สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า Teams ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันการสื่อสารและประชุมของไมโครซอฟท์ มีผู้ใช้งานรายวันเพิ่มขึ้นมากกว่า 12 ล้านคน ภายในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ หรือเพิ่มขึ้นถึง 37.5% จากการที่ผู้คนจำนวนมากต้องทำงานจากที่บ้านระหว่างที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) แพร่ระบาดอยู่
ไมโครซอฟท์ เผยว่า จากตัวเลข ณ วันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ใช้งาน Teams ทั้งหมด 44 ล้านคน เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวันที่ 20 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่รายงานไว้เมื่อเดือน พ.ย. 2019 โดยผู้ใช้งาน Teams เติบโตจาก 32 ล้านคน เป็น 44 ล้านคน ในช่วงเวลาเพียง 1 สัปดาห์ คือจากวันที่ 11 มี.ค. มาถึงวันที่ 18 มี.ค. เท่านั้น โดยพบว่ามีบริษัทอเมริกันจำนวนมาก ที่ให้พนักงานทำงานอยู่ที่บ้าน
ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปรียบเทียบว่จำนวนผู้ใช้งาน Teams กับคู่แข่งหลักอื่นๆ เป็นอย่างไรบ้าง แต่เบื้องต้น Slack แอปการทำงานร่วมกัน เคยให้ข้อมูลว่า เมื่อเดือน ต.ค. 2019 มีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน 12 ล้านคน
ที่ผ่านมา Slack ไม่ได้อัพเดทตัวเลขใหม่ๆ ในการประกาศรายได้เมื่อวันที่ 12 มี.ค. แต่ระบุเพียงว่า 4 ใน 5 การทำข้อตกลงใหญ่ๆ ในไตรมาสที่ผ่านมา ชนะ Teams ของไมโครซอฟท์ พร้อมให้ข้อมูลว่า ณ วันที่ 1 ก.พ. – 18 มี.ค. มีจำนวนลูกค้าใหม่ที่จ่ายค่าบริการ 7,000 คน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 40% เมื่อเทียบกับช่วง 2 ไตรมาสก่อนหน้านี้ที่จะมีจำนวนลูกค้าใหม่ที่จ่ายค่าบริการเพิ่มเฉลี่ย 5,000 คนต่อไตรมาส
ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้เปิดตัวฟีเจอร์หลายๆ อย่างที่ออกแบบมาเพื่อช่วยการทำงานแพทย์ทางไกล และการทำงานจากที่บ้าน เช่น การจองผ่าน Teams เพื่อช่วยให้โรงพยาบาลบริหารการรับนัดผ่านช่องทางเสมือนได้
“เมื่อองค์กรทั่วโลกเปลี่ยนวิธีการทำงานเพื่อตอบรับกับสถานการณ์ของโควิด-19 ก็ทำให้เราเกิดการเรียนรู้มหาศาล” Satya Nadella ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมโครซอฟท์ กล่าว
ปัจจุบัน ไมโครซอฟท์จัดเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกิจที่ใช้งาน Teams เต็มรูปแบบ แต่ให้บริการรูปแบบฟรีด้วย สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ขณะที่ ปัจจุบัน ไมโครซอฟท์ กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่ช่วยให้การทำงานจากที่บ้านจ่ายขึ้น สำหรับผู้ใช้งาน Teams