ซีเอ็นบีซี จัดทำรายงาน โดยชี้ว่า การบินในช่วงหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยคาดว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในสนามบินในอนาคตอันใกล้ ได้แก่ 1.การใช้เทคโนโลยีไร้สัมผัสอย่างมาก สนามบินต่างๆ จะเปลี่ยนไปใช้ระบบเทคโนโลยีไร้สัมผัสเร็วกว่าเดิมมาก จากเดิมอาจเห็นการปรับเปลี่ยนใช้เทคโนโลยีนี้ใน 5 ปี ก็กลายเป็น 5 เดือน โดยจะได้เห็นการเช็คอินที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีทำให้ไม่มีต้องสัมผัสเลย ทั้งด้านความปลอดภัยและการขึ้นเครื่อง ซึ่งการระบุตัวตนผู้โดยสาร การตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่ และหนังสือเดินทาง จะถูกทดแทนด้วยการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าและการสแกนข้อมูลชีวภาพ ขณะที่โทรศัพท์มือถือจะกลายเป็นเครื่องมือควบคุมระยะไกลในมือตลอดการเดินทาง
2.การเปลี่ยนแปลงเส้นทางการรักษาความปลอดภัย ซึ่งอนาคตคาดว่าจะต้องจองคิวก่อนผ่านขั้นตอนความปลอดภัยเพื่อลดการต่อแถวยาวของฝูงชน โดยการใช้เทคโนโลยีลักษณะเดียวกับสวนสนุกที่จะทำให้ระบุช่วงเวลาที่ผู้โดยสารจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยได้ ช่วยให้ผู้โดยสารมีโอกาสติดต่อผู้โดยสารคนอื่นๆ น้อยที่สุด
3.การทำความสะอาดทุกส่วนตั้งแต่กระเป๋าจนถึงบุคคล โดยคาดว่า จะมีการทำความสะอาดกระเป๋าด้วยการพ่นฆ่าเชื้อตั้งแต่วางบนสายพาน แม้แต่กระเป๋าที่นำขึ้นเครื่องก็ต้องพ่นฆ่าเชื้อ หรือการผ่านแสงยูวี หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ในขั้นตอนเอ็กซเรย์สัมภาระ ขณะที่ส่วนต่างๆ ในสนามบินต้องมีการทำความสะอาดบ่อยขึ้น โดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสบ่อยครั้ง
4.อาคารผู้โดยสารจะมีความผ่อนคลายและมีพื้นที่กว้างขวางขึ้น ทั้งนี้ เพราะการเช็คอินและตรวจสอบความปลอดภัยที่ราบรื่นจะทำให้ผู้โดยสารมีความสุข ลดความเครียด และใช้จ่ายเงินในสนามบินมากขึ้น โดยจะมีการแนะนำให้ใช้ระบบการชำระเงินดิจิทัลเป็นหลัก ขณะที่ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) จะเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในสนามบิน เพื่อกำจัดการรวมตัวของฝูงชนและจัดการการต่อแถว พื้นที่กินดื่มและค้าปลีกจะถูกแยกออกไป และใช้เทคโนโลยีความจริงเสมือน (เวอร์ชวล เรียลลิตี้) หรือภาพโฮโลแกรม เพื่อแสดงทางเลือกให้ผู้ซื้อ ส่วนสินค้าจะนำส่งโดยหุ่นยนต์ ส่งผลให้งานจำนวนมากจะหายไปแลวถูกสนับสนุนให้ใช้เทคโนโลยีปลอดเชื้อโรคแทน
5.การตรวจสอบโรคจะทำมากกว่าเดิม โดยในสนามบินมีการเพิ่มกล้องและเครื่องตรวจจับมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 และหลังจากนี้สนามบินอาจกลายเป็นพื้นที่ตรวจจับด้านสุขภาพ มากกว่ารับพาหะของโรค