เดอะ จาการ์ตา โพสต์ รายงานว่า รัฐบาลอินโดนีเซียวางแผนจะจัดทำงบประมาณปี 2021 ขาดดุล 5.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไปจนถึงปีหน้า โดยการเปลี่ยนแปลงงบประมาณนี้จะถูกนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก่อนหน้านี้เห็นชอบในแผนขาดดุลงบประมาณระหว่าง 4.17-4.7% ของจีดีพี
Sri Mulyani Indrawati รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินโดนีเซีย กล่าวว่า ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด หรือ โจโควี ต้องการให้การใช้งบประมาณในปีหน้ามีความยืดหยุ่น ในระหว่างที่ความไม่แน่นอนยังมีอยู่ เพราะต้องรอให้มีวัคซีนใช้ ด้วยเหตุนี้เราจึงจัดทำงบประมาณปีหน้าแบบขาดดุลเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ขณะที่ยังต้องรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19
ด้วยแผนการจัดทำงบประมาณขาดดุลมากขึ้น รัฐบาลจะมีเงินเพิ่มขึ้นอีก 179 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 12,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในปีหน้า โดยรัฐบาลจะใช้งบประมาณลำดับต้นๆ ไปกับ ความมั่นคงทางอาหาร การพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรม การพัฒนาเทคโนโลยี การศึกษา และสุขภาพ
อินโดนีเซียพยายามหาเงินทุนมาต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัส ท่ามกลางงบประมาณที่มีจำกัด ส่งผลให้รัฐบาลต้องแก้ไขกฎหมายเพื่อให้สามารถใช้งบประมาณขาดดุลได้มากขึ้น คือ มากกว่า 3% ของจีดีพี ตามที่กฎหมายกำหนดไว้
รัฐบาลอินโดนีเซีย คาดการณ์ว่า จะใช้งบประมาณขาดดุล 6.34% ของจีดีพีในปีนี้ โดยจะใช้งบไปกับด้านสาธารณสุขของประเทศและการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามรัฐบาลให้คำมั่นว่าจะกลับมาจำกัดการขาดดุลงบประมาณไม่เกิน 3% ของจีดีพี ในปี 2023 โดยรัฐบาลใช้จ่ายลดลงและมีรายได้เพิ่มขึ้น หลังจากภัยคุกคามจากไวรัสลดลง