โดย…ทนง ขันทอง
กองทุนอีทีเอฟ (ETF) กลายเป็นหนึ่งในเจ้าของทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยถือครองทองคำมากกว่าธนาคารกลางของญี่ปุ่นและอินเดียเสียอีก เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้ามาลงทุนในทองคำผ่านกองทุนเปิดอีทีเอฟทำให้ราคาทองคำพุ่งไปทำระดับสถิติสูงสุด
กองทุนอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) คือ กองทุนเปิดที่ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายได้ในตลาดหุ้นเหมือนหุ้นตัวหนึ่ง โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลและส่วนต่างราคาตามดัชนีอ้างอิงที่กองทุนอีทีเอฟนั้นไปลงทุน ซึ่งอีทีเอฟมีทั้งกองที่อ้างอิงดัชนีราคาหุ้นในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกองที่อ้างอิงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ
ในบทความ “ETF joins gold biggest owners as investors flock in” ของหนังสือพิมพ์ The Financial Times รายงานว่า SPDR Gold Shares ซึ่งเป็นกองทุนเปิดอีทีเอฟที่ลงทุนในทองคำแท่งได้เพิ่มการซื้อทองคำในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนหวังที่จะทำกำไรจากแนวโน้มของราคาที่สูงขึ้น รวมทั้งต้องการลงทุนในทองเป็นทรัพย์สินที่มั่นคงปลอดภัย
ขนาดของทองคำที่กองทุน SPDR Gold Shares ถืออยู่ได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,258 ตัน โดยทองคำนี้เก็บที่ตู้นิรภัยของธนาคาร HSBC ที่กรุงลอนดอน
ในวันที่ 3 และ4 กรกฎาคมนี้ กองทุนSPDR Gold Shares ได้เพิ่มการซื้อทองเข้ามาในพอร์ตถึง 15 ตัน
กองทุน SPDR Gold Shares เป็นกองทุนที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง State Street ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการทางการเงิน และมีสำนักงานที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐฯ และสภาทองคำโลก (World Gold Council)
ในปีนี้ กองทุนทุนทองคำอีทีเอฟนี้ให้ผลตอบแทน 33% ทำให้เพิ่มมูลค่าของกองเป็น 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
วันนี้ ราคาทองคำยังคงมีความร้อนแรง และทำนิวไฮอีกครั้ง โดยไปแตะระดับ 2,044 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และเมืองไทยได้เห็นราคาทองคำซื้อขายกันที่ระดับ 30,000 บาทต่อน้ำหนักทองคำ 1 บาทเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ทองคำที่ SPDR Gold Shares ครอบครองอยู่ 1,258 ตัน นับว่ามีขนาดใหญ่มาก เพราะว่าใหญ่กว่า หรือเทียบเท่าทองคำสำรองที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ถือเป็นส่วนหนึ่งของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ
ตามรายงานล่าสุดของ Gold World Council ธนาคารกลางสวิสถือครองทองคำ 1,040 ตัน เทียบกับธนาคารกลางญี่ปุ่น 765ตัน ธนาคารกลางอินเดีย 618 ตัน ธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์ 613 ตัน ส่วนธนาคารกลางของจีนรายงานตัวเลขที่เป็นทางการว่ามีการถือครองทองคำ 1,937 ตัน
SPDR Gold Shares มีชื่อรหัสย่อคือ GLD เป็นหนึ่งในกองทุนอีทีเอฟแรกที่ลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ โดยมีการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2004 การที่กองทุนอีทีเอฟนี้มีการซื้อทองคำจริง และเก็บทองที่ตู้นิระภัยในกรุงลอนดอนทำให้มีความโดดเด่นเหนือกองทุนอื่นที่ส่วนมากจะถือทรัพย์สินในรูปตราสารฟิวเจอร์สโภคภัณฑ์
ราคาของหุ้น GLD อยู่ที่ประมาณ 1 ใน 10 ของราคาทองคำน้ำหนัก 1 ออนซ์