ราคาหุ้นกับผลตอบแทนพันธบัตร 

ราคาหุ้นกับผลตอบแทนพันธบัตร 

By… ศรศักดิ สร้อยแสงจันทร์

BF Knowledge Center

อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) เป็นปัจจัยหนึ่งในหลายๆ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อราคาหุ้น ถ้าพูดกันแบบง่ายนักลงทุนมักเชื่อกันว่า Bond yield สูงขึ้นหรือเป็นขาขึ้นตลาดหุ้นจะตก ในทางกลับถ้า Bond yield เป็นขาลง หุ้นจะเป็นขาขึ้น

เหตุที่เป็นเช่นนั้นได้อธิบายไว้บ้างแล้วในเรื่อง Earning yield gap ที่เปรียบเทียบผลตอบแทนของหุ้นกับตราสารหนี้ เมื่อใดก็ตามที่ราคาหุ้นขึ้นหรือ Bond yield ขึ้นสูงว่าจนต่ำให้ ส่วนต่าง (Gap) แคบลง จนทำให้นักลงทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ทั้งสองประเภท (นักลงทุนระยะยาว กองทุนบำเหน็จบำนาญ กองทุนรวมผสม บริษัทประกันชีวิต) พิจารณาลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น หันไปเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ จนส่งผลให้ราคาหุ้นลดลงจากการขายของนักลงทุนดังกล่าว หรือในทางจิตวิทยา นักลงทุนประเภทเก็งกำไรคาดการณ์ว่านักลงทุนสถาบันจะปรับพอร์ตจนทำให้ราคาหุ้นตกลง จึงชิงลงมือขายหุ้นออกไปก่อนก็ทำให้หุ้นตกได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้า Bond yield หรือราคาหุ้นลดลงจนทำให้ส่วนต่าง (Gap) สูงขึ้น ผลก็จะเป็นไปในทางตรงกันข้าม

อีกมุมหนึ่ง การวิเคราะห์หามูลค่าหุ้นที่เหมาะสม (Fair value) สูตรคำนวนจะใช้กระแสเงินสดหรือเงินปันผลหารด้วยอัตราผลตอบที่คาดหวัง (Require rate of return) ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีบวกด้วยส่วนทดแทนความเสี่ยง (Risk premium) เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มสูงขึ้นมูลค่าหุ้นที่เหมาะสมจากการคำนวนจะลดลง หาก Fair value ลดลงต่ำกว่าราคาหุ้นในตลาดมาก นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนที่เน้นปัจจัยพื้นฐาน หรือพวก value investor อาจพิจารณาว่าราคาหุ้นอยู่ในภาวะสูงเกินไป (Overvalue) จึงขายหุ้นและลดสัดส่วนหุ้นพอร์ตลง นักลงทุนระยะสั้นที่จับตามองการเปลี่ยนแปลงของ Bond yield ก็จะรีบขายหุ้นเช่นเดียวกัน จึงอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง ในทางกลับกัน หาก Bond yield ลดลง ผลก็จะเป็นไปในทางตรงกันข้าม