โดย…ทนง ขันทอง

จีนกำลังร่างกฎหมายเพื่อที่จะเปิดเสรีตลาดบอนด์ เพื่อสนับสนุนให้ตลาดทุนของจีนมีความลึกมากยิ่งขึ้น โดยจะให้นักลงทุนต่างชาติประเภทสถาบันสามารถเอาเงินเข้ามาลงทุน และในขณะเดียวกันสามารถเอาเงินออกได้สะดวก

สื่อ The South China Morning Post รายงานในบทความ Beijing woos global bond investors by making it easier to get money in and out of China (22/9/2020) ว่า มาตรการเปิดเสรีตลาดบอนด์นี้ร่างโดยทีมงานของธนาคารกลางของจีน และหน่วยงาน State Administration of Foreign Exchange กำลังอยู่ในระหว่างการทำประชาพิจารณ์ไปจนถึงวันที่ 20 ตุลาคม หลังจากนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ของเงินทุนไหลเข้า/ไหลออกของนักลงทุนต่างชาติประเภทสถาบัน เพื่อทำให้ตลาดบอนด์ของจีนน่าดึงดูดในการลงทุนมากยิ่งขึ้น เพราะว่าที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติเอาเงินเข้ามาลงทุนได้ง่ายกว่าการเอาเงินออก

ภายใต้กฎเกณฑ์ใหม่ นักลงทุนต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกลาง สถาบันวานิชธนกิจ บริษัทบริหารความมั่งคั่ง หรือบริษัทประกันภัย สามารถเปิดบัญชีเพื่อลงทุนในตลาดพันธบัตรจีนได้กับธนาคารที่ทำหน้าที่เป็นคัสโตเดี้ยนในจีน ซึ่งจะเป็นขั้นตอนแรกในการเอาเงินเข้ามาลงทุนซื้อพันธบัตร

ถ้าหากว่านักลงทุนเอาเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเข้ามาลงทุน ต่อไปเวลาจะถอนการลงทุน หรือเอาเงินออกประเทศ ต้องนำเงินออกเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐอย่างเดียว แต่ถ้าเอาเงินหยวนเข้ามาลงทุนในตลาดบอนด์จีน ก็จะสามารถเอาเงินหยวนออกนอกประเทศได้

มีเพียงข้อจำกัดเดียวคือ นักลงทุนไม่สามารถเอาเงินสกุลหนึ่งเข้ามาลงทุนในตลาดบอนด์ แล้วถึงเวลาเอาเงินออกกลับเอาเงินสกุลอื่นออก ทั้งนี้เพื่อที่จะป้องกันการทำกำไร (arbitrage) ในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

เดิมที นักลงทุนต่างชาติที่เอาเงินเข้ามาลงทุนสามารถเอาเงินออกได้ 1.1 เท่าของเงินลงทุนเดิม แต่อัตราใหม่จะเป็น 1.2 เท่า

มาตรการใหม่นี้จะทำให้นักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุนในตลาดบอนด์ออนชอร์ของจีนได้โดยตรงอย่างสะดวก เพื่อเสริมช่องทางทางอ้อมอื่นที่มีอยู่แล้ว คือลงทุนผ่านช่องทาง Bond Connect ผ่านฮ่องกง หรือผ่านดัชนีการลงทุนระหว่างประเทศที่มีพันธบัตรจีนรวมอยู่ด้วย

มาตรการใหม่จะทำให้ตลาดบอนด์ของจีนน่าสนใจที่จะลงทุนเพิ่มขึ้น เพราะว่ายังให้ผลตอบแทนที่สูง เมื่อเทียบกับผลตอบแทนเกือบแตะ 0% ในตลาดสหรัฐฯ และดอกเบี้ยติดลบในตลาดยุโรป+ตลาดญี่ปุ่น

ในปัจจุบัน ยิลด์หรือผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปีให้ผลตอบแทน 3.11% เมื่อเทียบกับ 0.66% สำหรับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี หรือ -0.49% สำหรับพันธบัตรรัฐบาลเยอรมันอายุ 10 ปี

แม้ว่าจะมีการวิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีนจะแยกตัวจากกันเนื่องจากความตึงเครียดจากปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่จีนยังคงเห็นเงินทุนไหลเข้าจากเม็ดเงินของกองทุนโลก รวมทั้งเงินลงทุนของธนาคารวอลล์สตรีท

ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเดือนเดียว มีเม็ดเงินต่างชาติ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไหลเข้าตลาดบอนด์ของจีน เนื่องจากนักลงทุนเห็นว่าจีนมีการบริหารจัดการกับการระบาดของโคโรนาไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวเป็นประเทศแรกของโลก

นอกจากนี้สถาบันการเงินมอร์แกน สแตนเล่ย์ ได้คาดการณ์ว่า จะมีเม็ดเงิน 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ไหลเข้าตลาดการเงินของจีนในอีก 10 ปีข้างหน้า