ซีเอ็นบีซี รายงานว่า นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ ออกมาคาดการณ์ว่า โฆษณาออนไลน์จะเติบโตถึง 20% ในปี 2021 โดยจะมีเฟซบุ๊ก กูเกิล และพินเทอเรสต์ เป็นผู้นำการเติบโต
ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น เฟซบุ๊ก กูเกิล สแนป ทวิตเตอร์ พินเทอเรสต์ และอเมซอน สะท้อนว่า รายได้จากโฆษณาดิจิทัลกลับมาคึกคักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งยังชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มดิจิทัลนี้เกี่ยวกับกับอี-คอมเมิร์ซที่จะยังคงอยู่ต่อไป
นักวิเคราะห์มอร์แกน สแตนลีย์ ระบุว่า นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ โฆษณาในไตรมาสที่ 3 สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบในการฟื้นตัวแบบวีเชฟในปีหน้า โดยในไตรมาสที่ 3 บริษัทโฆษณาออนไลน์เห็นผลของการใช้จ่ายโฆษณาออนไลน์บนอี-คอมเมิร์ซที่เติบโตรวดเร็ว และการกลับมาใช้โฆษณาแบรนด์ ที่ก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบหนักกว่ากลุ่มอื่นๆ ในตลาด ช่วงการแพร่ระบาด
ในภาพใหญ่เรายังคงเห็นการโฆษณาเป็นไปตามวงจร โดยเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วขึ้นจะเป็นตัวนำให้เกิดการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมต่างๆ มากขึ้น บริษัทต่างๆ จะใช้จ่ายเพื่อเข้าถึงการฟื้นตัว และการเปิดรับของผู้บริโภค
มอร์แกน สแตนลีย์ ระบุว่า พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปในระหว่างที่ต้องอยู่ที่บ้าน ซึ่งก็ทำให้เกิดความท้าทายในการใช้จ่ายด้านโฆษณาที่ต้องเปลี่ยนตาม โดยมอร์แกน สแตนลีย์ ระบุว่า การใช้จ่ายโฆษณาจะมาอยู่บนดิจิทัล 8% ในปี 2020 และ 15% ในปี 2021 ขณะที่การเติบโตของโฆษณาดิจิทัล จะอยู่ที่ 11% ในปีนี้ และ 20% ในปีหน้า ส่วนการฟื้นตัวจะเกิดขึ้นใน 2 ปีข้างหน้า
นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์อีกว่าโฆษณาบนเฟซบุ๊ก น่าจะเติบโต 29% ในไตรมาสที่ 4 และเติบโต 27% ในปีหน้าเทียบกับปีนี้ โดยการประมาณการนี้ไม่ได้รวมอินสตาแกรม ชอป หรือรีลส์ ที่เพิ่งออกมาด้วย ซึ่งทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้ อาจจะสร้างรายได้โฆษณาได้หลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐในปีหน้า