โดย…อรพรรณ บัวประชุม CFP®
เอ๊ะๆๆๆ มือใหม่สงสัยอะไรเกี่ยวกับกองทุนรวมกันบ้าง แล้วเราล่ะ ยังสงสัยกันอยู่มั้ย งานนี้ไม่ว่ามือเก่า หรือมือใหม่ที่จะลงทุนในกองทุนรวม ก็ยังติดความสงสัยกับบางเรื่องอยู่ วันนี้มาดูกันค่ะว่ามีความสงสัยเรื่องอะไรกันบ้าง
1.ไม่เคยลงทุนเลย จะลงทุนในกองทุนได้ไหม?
ลงทุนในกองทุนได้เลยค่ะ แม้ว่าจะไม่เคยลงทุนในอะไรมาก่อนเลย แค่มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ มีเงินลงทุน มีบัตรประชาชน มีบัญชีเงินฝาก ถ้ายังไม่มีบัญชีเงินฝากก็เปิดบัญชีเงินฝากก่อนเลย นอกจากนี้ แนะนำว่า ควรมีความรู้เรื่องกองทุนมาบ้างแล้ว ว่ากองทุนรวมคืออะไร มีความแตกต่างกันยังไง ต้องดูตรงไหน แล้วนโยบายกองทุนที่เราสนใจลงทุนว่าเขาจะเอาเงินเราไปลงทุนในอะไร มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไหม เพราะคนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าถ้ามีกำไรกองทุนจะจัดการให้เรา ต้องบอกว่าไม่ใช่ค่ะ ถ้ากองทุนมีกำไรมูลค่าของเขาจะแสดงออกมาให้เห็นเอง นั่นก็คือ NAV (มูลค่าหน่วยลงทุนต่อหน่วย) แต่ถ้าเราอยากให้กองทุนจัดการให้เราบ้างในกรณีที่มีกำไร เราก็ต้องเลือกกองทุนที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ เมื่อกองทุนมีกำไรก็จะดูว่ากำไรมากพอตามที่แจ้งไว้มั้ย ถ้าเพียงพอก็จะจ่ายเงินปันผลออกมา พอให้พวกเราใจชื้นขึ้นมานิดๆ หน่อยๆ
2.กองทุนมีเยอะเหลือเกิน แล้วจะรู้ได้ไงว่ากองไหนดี
ดีไม่ดี ขึ้นอยู่กับว่าถูกใจเราหรือเปล่า ตรงใจเราแค่ไหน เพราะบางทีตรงใจคนอื่นแต่ไม่ตรงใจเราก็บอกว่าไม่ดีแล้ว หรือที่ว่าดีคือกองทุนที่ลงทุนแล้วได้กำไรเยอะๆ จ่ายปันผลเยอะๆ ถ้าเป็นแบบนั้น เราก็ต้องเผื่อใจไว้ด้วยว่ากองทุนที่มีโอกาสได้กำไรเยอะก็มีโอกาสขาดทุนได้เยอะเช่นกัน ถ้าอยากรู้จริงๆ ต้องอ่านนโยบายกองทุน ว่าลงทุนในอะไร แล้วเข้าไปดูว่าลงตามนโยบายมั้ย ที่ผ่านมาผลการดำเนินงานเป็นยังไงบ้าง ตอบโจทย์ตรงใจเราไหม มีนโยบายจ่ายเงินปันผลด้วยหรือเปล่า ถ้ามีนโยบายจ่ายเงินปันผลแต่เราไม่ต้องการเงินปันผลก็อาจจะไม่ตอบโจทย์เรา แต่ถ้าเราต้องการเงินปันผลแล้วมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้เราด้วยก็ตอบโจทย์ตรงใจเราพอดี ส่วนใครที่ไม่รู้ว่าจะเลือกกองที่มีปันผลดีไหม ต้องรู้ก่อนว่าเราอยากได้เงินคืนมาบ้างไหมในช่วงที่เราลงทุน ถ้าไม่อยากได้ก็เลือกกองทุนที่ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล แต่ถ้าอยากได้คืนมาบ้างและไม่รู้จังหวะในการขายคืน ก็เลือกนโยบายจ่ายเงินปันผลค่ะ
3.กระจายการลงทุนลดความผันผวน อย่างนี้ต้องลงทุนหลายกองทุนใช่มั้ย
ถ้าต้องการกระจายการลงทุน ลดความผันผวน การเลือกลงทุนหลายกองทุน ที่มีนโยบายการลงทุนต่างกันช่วยได้ เช่น กองนี้ลงทุนในตราสารหนี้ กองนี้ลงทุนในหุ้นไทย กองนี้ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ กองนี้ลงทุนในทองคำ ถ้าเป็นแบบนี้ก็เหมือนเราจัดสัดส่วนการลงทุน กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายผ่านกองทุนรวม แต่ถ้าลงทุนหลายกองทุนแต่นโยบายเดียวกัน ต่างกันแค่กองทุน ต่างกันแค่บริษัทจัดการ ถ้าเป็นแบบนี้คือไม่ได้กระจายการลงทุน อย่างเช่น ลงทุนในกองทุนทองคำของบริษัท A ส่วนหนึ่ง ลงทุนในกองทุนทองคำบริษัท B อีกส่วนหนึ่ง ดูแล้วเหมือนกระจายการลงทุนไป 2 แห่ง แต่สินทรัพย์ลงทุนเหมือนกัน ก็คือไม่ได้กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ เป็นการกระจุกตัวในสินทรัพย์มากกว่า
แต่ถ้าเลือกกองเดียวที่มีนโยบายกระจายการลงทุนหลากหลาย ก็เป็นการกระจายการลงทุนได้เหมือนกันค่ะ เช่น กองทุนที่มีนโยบายการลงทุนแบบผสม ลงทุนทั้งในตราสารหนี้ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ เป็นต้น
4.อยากลงทุนกองทุนต่างประเทศ แต่เราไม่คุ้นชินประเทศนั้น ต้องศึกษาอะไรบ้าง?
อยากลงทุนกองทุนต่างประเทศ แสดงว่าต้องมีอะไรที่เราสนใจ ไม่ประเทศน่าสนใจ ก็ต้องมีอะไรที่น่าสนใจทำให้เราอยากลงทุน ดังนั้น กองทุนรวมที่ไปลงทุนในต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในรูปแบบ Feeder Fund หรือการเลือกหากองทุนในต่างประเทศที่ลงทุนตรงกับใจเรา นั่นก็คือ กองทุนหลัก (Master Fund) ดังนั้น เราต้องรู้ว่า กองทุนหลักลงทุนในอะไร ใช่สิ่งที่เราอยากลงทุนไหม หรือเราคิดว่ามันจะดีในอนาคต แต่อย่าลืมว่าเมื่อเราลงทุนในต่างประเทศ ก็จะมีความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นมาด้วยแล้ว เราสามารถรับความเสี่ยงในเรื่องนี้ได้หรือเปล่า
5.ต้อง DCA วันไหนถึงจะไม่ขาดทุน
ต้องบอกว่าไม่มีใครรู้อนาคต แต่อดีตที่ผ่านมาเราต่างก็รู้กันดี และจะมีคำพูดยอดฮิตกันว่า “รู้งี้ๆ” ที่เราพูดอย่างนี้เพราะเราไม่เห็นเหตุการณ์ในอนาคต เราได้แค่เพียงคาดเดา และหวังว่าที่เราลงทุนไปจะได้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคต ดังนั้น การลงทุนแบบ DCA คือการลทุนแบบถัวเฉลี่ย สม่ำเสมอ เงินมากหรือน้อยไม่สำคัญ สำคัญที่การมีวินัย ลงทุนเป็นประจำ ดังนั้น แนะนำให้เลือกลงทุนแบบ DCA ในวันที่เรามีเงิน ไม่ใช่วันที่หมดเงิน ดังนั้น ควรทำ DCA ช่วงเงินเข้าบัญชีใหม่ๆ ช่วงนั้นดีที่สุดสำหรับการลงทุน DCA ของเราค่ะ
สำหรับมือใหม่ที่เริ่มลงทุนในกองทุนรวม ถือว่ามาถูกทางแล้ว เพราะกองทุนรวมเป็นเครื่องมือลงทุนที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้ มีหลากหลายนโยบายให้เลือกลงทุน อยากได้นโยบายแบบไหนเราเลือกได้ อยากให้เงินเติบโตแบบไหน เราก็เลือกได้ ขอเพียงแค่เริ่มต้นลงทุน เราก็จะเริ่มไปถึงเป้าหมายแล้วค่ะ