กองทุนรวมบัวหลวงหุ้นธรรมาภิบาลไทย (B-THAICG)

กองทุนรวมบัวหลวงหุ้นธรรมาภิบาลไทย (B-THAICG)

BBLAM’s 2020 INVESTMENT THEMES

“เครือข่ายครอบคลุม สร้างความแข็งแกร่ง บรรษัทแข็งแรงสร้างความยั่งยืน

ภาพรวมตลาดหุ้น

ตลาดหุ้นโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน หนุนโดยปัจจัยบวกจากความชัดเจนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยตลาดคาดว่า โจ ไบเดน จะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป ช่วยลดความร้อนแรงของนโยบายการค้าระหว่างประเทศ และความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีน โดยมีบริษัทสำคัญ ได้แก่ Pfizer และ Moderna รายงานผลการทดลองที่มีประสิทธิภาพ ลดความกังวลต่อสถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายวันทั่วโลกที่ยังคงอยู่ในระดับสูงในขณะนี้ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้เกิดภาวะ Risk on ในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง โดย ตลาดหุ้นโลก (World MSCI Index) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.7% จากเดือนก่อนหน้าที่มีการปรับฐานลงประมาณ -3%

ปัจจัยข้างต้น สร้างความคาดหวังเชิงบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า โดยความเสี่ยงของสงครามการค้าที่ลดลง เป็นบวกต่อภาพการค้าของโลก ขณะที่ วัคซีน จะช่วยทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆและการท่องเที่ยว สามารถฟื้นตัวได้เป็นปกติมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวดีขึ้น โดยอุตสาหกรรมที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่นในเดือนพฤศจิกายนจะเป็นในกลุ่มหุ้นวัฏจักร (Cyclical) ได้แก่ กลุ่มพลังงาน สถาบันการเงิน และสินค้าอุตสาหกรรม เป็นต้น ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (EM) และภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีสัดส่วนหุ้นวัฏจักร (Cyclical) สูงในดัชนี เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว (DM) ปรับตัวขึ้นได้ดี รวมทั้งตลาดหุ้นไทยด้วย โดยมีกระแสเงินลงทุน (Fund Flow) จากต่างชาติ ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยด้วยยอดซื้อสุทธิ 3.3 หมื่นล้านบาทในเดือนนี้ เป็นการซื้อสุทธิเดือนแรกหลังจากขายสุทธิติดต่อกัน 15 เดือน ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทย ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.9%

ด้านปัจจัยภายในประเทศ เศรษฐกิจไทยปรับตัวฟื้นขึ้นเป็นลำดับ เป็นไปในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจโลก โดย GDP ไตรมาสที่ 3 ออกมาหดตัว -6.4% YoY จากที่หดตัว -12.1% YoY ในไตรมาสก่อนหน้า ดีกว่าตลาดคาดว่าจะหดตัว -8.8% YoY โดยเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้นในวงกว้าง และยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้ายของปี อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่สำคัญสำหรับเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกในปีหน้า ยังคงขึ้นอยู่กับ ประสิทธิภาพและการแจกจ่ายวัคซีน เพื่อที่จะทำให้เศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่ประเด็นการเมือง แม้ยังมีการนัดชุมนุมอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีแนวโน้มไม่รุนแรง และการที่รัฐสภารับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเตรียมจัดตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์นั้น ช่วยลดความตึงเครียดทางการเมืองได้ในระดับหนึ่ง

กลยุทธ์การลงทุนของกองทุน

แนวโน้มการลงทุนในระยะข้างหน้า ตัวเลขเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปเป็นลำดับ ขณะที่นโยบายการเงินยังคงอยู่ในโหมดผ่อนคลาย นำโดย Fed ซึ่งส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกต้องใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเช่นเดียวกัน หนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยปัจจัยที่ต้องจับตามองในระยะข้างหน้า ยังคงเป็นประเด็น การแพร่ระบาดและการพัฒนาวัคซีน รวมถึงนโยบายของสหรัฐฯ หลังการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี

ด้านตลาดหุ้นไทย ยังมีแนวโน้มได้รับอานิสงส์จาก Fund Flow ต่างชาติในระยะข้างหน้า แต่การที่ SET Index ปรับตัวขึ้นมาเร็ว อยู่ในระดับปัจจุบันที่ Fwd. PER 21 ที่ 19 – 20 เท่า ทำให้อาจมี Upside จำกัดในช่วงสั้น

กลยุทธ์การลงทุน ยังต้องมีความ Selective โดยเน้นหุ้นที่มีแนวโน้มของผลประกอบการที่ดี รวมถึงธุรกิจที่จะฟื้นตัวได้ดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะข้างหน้า โดยผู้จัดการกองทุนมีมุมมองบวกต่อกลุ่มอุตสาหกรรม ดังนี้

  • กลุ่มขนส่ง : ภายใต้สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เติบโตระดับต่ำ เน้นลงทุนในบริษัทที่กำไรสามารถเติบโตได้จากการขยายเส้นทางเดินรถไฟฟ้าและทางด่วน
  • กลุ่มค้าปลีก : ธุรกิจค้าปลีกมีแนวโน้มเติบโตอย่างสม่ำเสมอและได้รับผลกระทบจากวัฎจักรเศรษฐกิจต่ำ เลือกลงทุนในบริษัทที่มีความได้เปรียบในการแข่งขันและมีความสามารถในการขยายธุรกิจ
  • กลุ่มวัสดุก่อสร้าง : ช่วงครึ่งปีหลัง ภาครัฐจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้น ทั้งจากงบปัจจุบันที่มีความล่าช้าในการเบิกจ่ายในช่วงที่ผ่านมา งบประมาณใหม่ที่จะเริ่มเดือนตุลาคม และงบฟื้นฟูเศรษฐกิจที่รอการอนุมัติ  ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่ม

ผลการดำเนินงานของกองทุน ณ 30 พฤศจิกายน 2563

น้ำหนักการลงทุนของกองทุนแยกตามหมวดธุรกิจเทียบกับ Benchmark 30 พฤศจิกายน 2563

โครงการที่กองทุนให้การสนับสนุน จำนวน 6 โครงการ

  1. โครงการ “CAC SME Certification” ซึ่งเป็นโครงการภายใต้แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (Collective Action Coalition Against Corruption หรือ CAC) เพื่อรับรองบริษัทเอกชนขนาดเล็กและขนาดกลางที่ผ่านการตรวจสอบว่ามีนโยบายและแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันการทุจริตครบถ้วนตามเกณฑ์ที่ CAC กำหนด เพื่อสร้างระบบนิเวศของธุรกิจที่ปราศจากการคอร์รัปชั่น ซึ่งบริษัท SME ที่ได้ผ่านการรับรองจาก CAC มีการปรับปรุงนโยบายและข้อปฏิบัติในการทำงาน โดยสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดคือ การประกาศใช้นโยบาย No Gift Policy นอกจากนี้โครงการยังจัด SMEs Executive Briefing, SMEs Clinic, Independent Auditor training และสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้สิทธิประโยชน์แก่สมาชิก
  2. โครงการ “เกมเพื่อการเรียนรู้การต่อต้านคอร์รัปชั่น” (Corrupt the Game) สำหรับเยาวชนในโรงเรียน ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการสื่อสารปัญหาและผลกระทบของคอร์รัปชั่นภายใต้ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิเพื่อคนไทยและโอเพ่นดรีมซึ่งพัฒนาให้รองรับการเรียนการสอนในห้องเรียนด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างเครื่องมือเพื่อการเรียนรู้การต่อต้านคอร์รัปชั่นผ่านเกมส์ พัฒนาเนื้อหาให้เหมาะกับคาบเรียน พัฒนาเกมให้สามารถลงใน PC Windows, Stream, Android จัดทำเนื้อหาส่วนแนะนำเกมและการติดตั้งลงในคอมพิวเตอร์ให้กับคุณครู
  3. โครงการเพิ่มศักยภาพการดำเนินงานข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact Capacity Development) เพื่อจัดทำ Platform ใช้สนับสนุนการทำงานโครงการข้อตกลงคุณธรรม เพื่อให้ผู้สังเกตการณ์อิสระมีระบบในการหาข้อมูลและรายงานการสังเกตการณ์ ซึ่งจะรองรับจำนวนผู้สังเกตการณ์ได้มากขึ้น (ประมาณ 200 คน)
  4. โครงการหมาเฝ้าบ้าน (ACT WATCHDOG) มีการนำโซเชียลมีเดียมาใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร โดยมีจุดประสงค์หลัก คือ เป็นการสร้างหมาเฝ้าบ้านให้กับประเทศ เป็นประชาชนที่ตื่นรู้และลงมือทำอย่างจริงจัง คอยสอดส่อง ส่งต่อหรือเผยแพร่ข้อมูลการทุจริต ใช้พลังทางสังคมสร้างการรับรู้ เรียนรู้และเปลี่ยนแปลง จะส่งผลในทางป้องปรามไม่ให้เกิดการทุจริตในภาครัฐตั้งแต่ต้น มีการจัดอบรมพัฒนาทีมอาสาสมัครหมาเฝ้าบ้านช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานตรวจสอบและเปิดโปงทุจริต
  5. โครงการ Big Open Data เป็นโครงการสนับสนุนการจัดทำระบบรวบรวมข้อมูลของภาครัฐและเอกชน ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ใช้ตรวจสอบ มีการเชื่อมโยง จัดการ และวิเคราะห์ชุดข้อมูลที่มีความสำคัญต่อการต่อต้านคอร์รัปชั่น สนับสนุนนักข่าว สื่อ ภาคประชาสังคมและประชาชน สร้างความร่วมมือในการทำงานแบบภาคี
  6. โครงการนำร่องบัตรคะแนนชุมชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นโครงการเพื่อสร้างเสริมหลักธรรมาภิบาลผ่านกลไกเครื่องมือที่เน้นไปที่หลักการมีส่วนร่วม หลักการเปิดเผยโปร่งใส และการสร้างกลไกความรับผิดชอบร่วมกันทำภายในชุมชนโดยการปลูกฝังความรู้และให้เครื่องมือในการป้องกันการเกิดคอร์รัปชั่นในท้องถิ่น

คำเตือน – ข้อมูลในบทความนี้เป็นข้อมูลที่มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งนักลงทุนสามารถเข้าถึงได้โดยทั่วไป และเป็นข้อมูลที่เชื่อว่าน่าจะเชื่อถือได้ แต่ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (“บริษัท”) มิได้ยืนยันหรือรับรองถึงความถูกต้อง หรือสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด ความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความนี้เป็นเพียงการนำเสนอในมุมมองของบริษัท และเป็นความคิดเห็น ณ วันที่ปรากฏในบทความเท่านั้น ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ภายหลังวันดังกล่าว โดยบริษัทไม่จำเป็นต้องแจ้งสาธารณชน หรือผู้ลงทุนทราบ บทความฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้น บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการนำข้อมูลหรือความคิดเห็นใดๆไปใช้ในทุกกรณี ดังนั้นผู้ลงทุนควรใช้ดุลพินิจในการพิจารณา เนื่องจากการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต