By… ศรศักดิ สร้อยแสงจันทร์
BF Knowledge Center
แนวคิดในการจัดการเงินลงทุนโดยมองภาพรวมของเงินลงทุนที่หมดของนักลงทุน โดยจัดสรรหรือแบ่งเงินลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เป็นกระบวนการที่เกิดจากการวางแผนการลงทุนโดยตั้งเป้าหมายที่ต้องการ เช่น ลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ เพื่อสร้างความมั่นคั่ง หรือเพื่อสร้างครอบครัว พิจารณาถึงความเสี่ยงที่ยอมรับได้และสอดคล้องกับเป้าหมาย โดยมีการประมาณการณ์ผลตอบแทนและความผันผวนของสินทรัพย์แต่ละประเภท
Strategic Asset Allocation(SAA) เป็นการจัดสรรเงินลงทุนในระยะยาวเพื่อตอบสนองเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยแบ่งเงินลงทุนในสินทรัพย์ตามที่วางแผนไว้ เช่น ลงทุนในตราสารหนี้ 55% หุ้น 30% สินทรัพย์ทางเลือก 15% และเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ (Security selection) ภายใต้กรอบที่กำหนดไว้ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนรักษาวินัยในการลงทุน ไม่หวั่นไหวเปลี่ยนแปลงไปตามอารมณ์ส่วนตัวหรือภาวะตลาด และหลีกเลี่ยงการพยายามจับจังหวะการเคลื่อนไหวของตลาดเพื่อเก็งกำไร เพราะโอกาสที่จะประสบความสำเร็จจากการจับจังหวะมีน้อยมาก
Tactical Asset Allocation (TAA) เป็นการปรับสัดส่วนการลงทุนในระยะสั้นเพื่อหาโอกาสการลงทุนที่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและตลาดทุนในแต่ละช่วง โดยยังคงรักษากรอบการลงทุนระยะยาวภายใต้ Strategic Asset Allocation เช่น SAA กำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น 30% นักลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจะยังอยู่ในช่วงขาขึ้นใน 1 ปี ข้างหน้า จึงอาจเพื่อสัดส่วนหุ้นเป็น 35% โดยลดสัดส่วนตราสารหนี้ลงเป็น 50% หรือคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นในช่วง 1 ปี ข้างหน้าจะมีความผันผวนสูง มีโอกาสให้ผลตอบแทนต่ำกว่าปกติ อาจลดสัดส่วนลงทุนในหุ้นเหลือ 25% และเพิ่มสัดส่วนตราสารหนี้เป็น 57.5% และสินทรัพย์ทางเลือกเป็น 17.5% โดยจะเป็นการปรับเพิ่ม/ลดสินทรัพย์เสี่ยง(หุ้น)เพียง 5% ไม่ให้เบี่ยงเบนไปมากจากสัดส่วน 30% ที่กำหนดไว้ใน SAA