รายงานข่าวจากซีเอ็นบีซี ระบุว่า ระบบคลาวด์ Azure (อาซัวร์) ของไมโครซอฟท์ จะเป็นแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทภายในปี 2022 ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการก้าวไปสู่ความสำเร็จของไมโครซอฟท์ จากผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ในองค์กรไปสู่การให้บริการบนระบบคลาวด์ นับตั้งแต่ Satya Nadella เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ต่อจาก Steve Ballmer ในปี 2014
Brent Bracelin นักวิเคราะห์ของ Piper Sandler คาดการณ์รายรับของอาซัวร์ อยู่ที่ 7.20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาส 2 ปีงบประมาณของบริษัท (สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2020) ซึ่งมีส่วน 17% ของรายได้รวมไมโครซอฟท์ เทียบกับ 4% เมื่อ 3 ปีก่อน
แม้ว่าไมโครซอฟท์จะไม่ได้เปิดเผยรายได้จากอาซัวร์เป็นจำนวนเงิน แต่การประมาณการของ Piper Sandler สอดคล้องกับความเชื่อมั่นที่กว้างขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์ของ William Blair ก็คาดว่ารายรับของอาซัวร์อยู่ที่ 7.40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนั่นหมายความว่า อาซัวร์มีขนาดใหญ่กว่าวินโดวส์ ซึ่งสร้างรายได้ 5.72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสนี้ตามงบกำไรของไมโครซอฟท์
ทั้งนี้ Piper Sandler คาดการณ์รายได้ของอาซัวร์ รายไตรมาสอยู่ที่ 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในเดือน มิ.ย. 2022 ขณะที่รายได้รวมของออฟฟิศ 365 ลดลง 1.09 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก
อนึ่ง ออฟฟิศ 365 และอาซัวร์ มีต้นกำเนิดที่ไมโครซอฟท์ ในขณะที่ Ballmer ดำรงตำแหน่งซีอีโอ แต่ Nadella ได้ให้ความสำคัญกับอาซัวร์มากขึ้น โดยสร้างความร่วมมือแบบคลาวด์กับบริษัทที่เคยเป็นคู่แข่งกันมาก่อน รวมถึง Salesforce (เซลส์ฟอร์ซ) และ Sony (โซนี่) ซึ่ง Nadella เคยเป็นผู้นำที่ดูแลในส่วนอาซัวร์ ก่อนที่เขาจะรับตำแหน่งซีอีโอ