รายงานข่าวจากบลูมเบิร์ก เผยผลสำรวจความคิดเห็นด้านสภาพอากาศครั้งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา แสดงให้เห็นว่า กลุ่ม Gen Z หรือผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี มีความกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศในอนาคตของโลกมากกว่าผู้สูงอายุ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นในประเทศที่ก่อมลพิษเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จะมีความเชื่ออย่างยิ่งว่าภาวะโลกร้อนเป็นภาวะฉุกเฉิน
การสำรวจความคิดเห็นด้านสภาพอากาศในครั้งนี้ดำเนินการโดยโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด มีผู้ตอบแบบสอบถาม 1.2 ล้านคนใน 50 ประเทศ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำการสำรวจมา อย่างไรก็ตามการศึกษานี้ไม่ได้มีการสำรวจประชากรจีนซึ่งเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ที่สุดในโลก
รายงานยังระบุว่า 69% ของผู้ตอบแบบสอบถามจากทั่วโลกที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเหตุฉุกเฉิน เมื่อเทียบกับผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีมีเพียง 58% ที่มองเช่นนั้น
Stephen Fisher ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า การสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้สะท้อนการรับรู้ถึงภาวะฉุกเฉินทางสภาพอากาศที่แพร่หลายมากกว่าที่เคยคิดไว้ นอกจากนี้เรายังพบว่า คนส่วนใหญ่ต้องการการตอบสนองต่อนโยบายที่เข้มข้นและรุนแรงอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
โดยรวมแล้ว 64% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า ภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องฉุกเฉินและในจำนวนนี้ 59% กล่าวว่าจำเป็นต้องมีการตอบสนองอย่างเร่งด่วน การอนุรักษ์ผืนดินและป่าไม้ การเพิ่มพลังงานหมุนเวียนและการใช้เทคนิคการทำฟาร์มที่เป็นมิตรกับสภาพอากาศเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด อีกทั้งการให้บริษัทต่างๆ จ่ายชดเชยค่ามลพิษเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับการสนับสนุนสูงจากผู้ตอบแบบสอบถามในหลายประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่มีรายได้สูง