การส่งออกไทย flat ในเดือน ม.ค. MOC คาดทั้งปีโต 4%

การส่งออกไทย flat ในเดือน ม.ค. MOC คาดทั้งปีโต 4%

BF Economic Research

การส่งออกไทยมีมูลค่า 19,706.57 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 0.35% จากตลาดคาด 0.6-2.7% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 19,908.96 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัว 5.24% ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล 202.38 ล้านดอลลาร์ฯ

ทั้งนี้เมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับ น้ำมัน ทองคำ และอาวุธ ยุทธปัจจัย ขยายตัว 7.57% YoY สะท้อนการเติบโตจากภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector)

  • การส่งออกของไทยเดือนม.ค.ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนธ.ค. ปีก่อน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ซึ่งมูลค่าส่งออกยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง (18,319 ล้านดอลลาร์ฯ) โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายประเทศและประสิทธิภาพของวัคซีน Covid-19 เริ่มเห็นผลชัดเจนและ กระจายในวงกว้าง
  • สำหรับปัจจัยสนับสนุนต่อการส่งออกไทยในเดือนนี้ ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายประเทศที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง, ประสิทธิภาพของวัคซีนต้านไวรัส Covid-19 เริ่มเห็นผลชัดเจน และมีการกระจายวัคซีนไปในวงกว้าง ส่งผลให้เกิดอุปสงค์และความเชื่อมั่นกลับมาได้อย่างรวดเร็ว, ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ยังช่วยสนับสนุนสินค้าในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันด้วย รวมทั้งความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค (RCEP) ที่จะช่วยสนับสนุนการส่งออกสินค้าของไทยในระยะต่อไป
  • อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยที่กดดันการส่งออกของไทย ได้แก่ การแพร่ระบาดของไวรัสCovid-19 ระลอกใหม่ และพบว่าไวรัสมีการกลายพันธุ์, ยังมีอุปสรรคด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ จากปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และภาวะเงินบาทแข็งค่า

  • ในรายสินค้าของเดือนม.ค.นี้ พบว่า สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่มขึ้น 3.7% ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี เช่น น้ำมันปาล์ม, ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง, ผัก ผลไม้สด แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป, เนื้อสุกรแช่เย็นแช่แข็ง และอาหารสัตว์เลี้ยง เป็นต้น ส่วนสินค้าที่หดตัว ได้แก่ น้ำตาลทราย ข้าว และไก่สดแช่แข็งและแปรรูป
  • ส่วนภาพรวมการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 0.9% ขยายตัว 2 เดือนต่อเนื่อง โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี คือ ถุงมือยาง ซึ่งขยายตัวถึง 200% เป็นผลจากการระบาดของไวรัสCovid-19 ที่ทำให้ยังมีปริมาณความต้องการใช้ถุงมือยางอย่างต่อเนื่อง เช่น สหรัฐฯ, เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, จีน และญี่ปุ่น ซึ่งการส่งออกถุงมือยางของไทยขยายตัวต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 14 แล้ว นอกจากนี้ สินค้าเฟอร์นิเจอร์ ยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสCovid-19 ทำให้คนยังมีการทำงานที่บ้าน (Work from Home) จึงส่งผลต่อความต้องการสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนสำหรับที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น
  • ในรายสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญที่การส่งออกลดลง คือ ทองคำ ที่หดตัว -90% เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ความต้องการทองคำลดลง คนจึงหันไปซื้อสินทรัพย์อื่นทดแทน

  • ด้านการส่งออกในรายประเทศคู่ค้า พบว่า การส่งออกไปตลาดสำคัญหลายตลาดขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนการฟื้นตัวของอุปสงค์จากประเทศคู่ค้า สอดคล้องกับภาคการผลิตและการบริโภคทั่วโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยการส่งออกไปยังตลาดหลัก ขยายตัวได้ 5.7% ตลาดศักยภาพสูง ขยายตัวได้ 1.4% และตลาดศักยภาพรอง ขยายตัวได้ 10.3% ทั้งนี้ การส่งออกในตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) สามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้ในรอบ 10 เดือน แสดงถึงการค้าชายแดนที่เริ่มกลับมาเป็นปกติ อย่างไรก็ดี ตลาดอื่นๆ ที่มีสัดส่วนสำคัญต่อการส่งออกของไทย เช่น สหภาพยุโรป เอเชียใต้ และอาเซียน ยังคงเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์Covid-19อย่างมาก ทำให้การฟื้นตัวของการส่งออกในตลาดดังกล่าวเป็นไปอย่างช้าๆ
  • สำหรับ แนวโน้มการส่งออกของไทยในปี 2021 กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าปีนี้การส่งออกของไทยจะขยายตัวได้ 4% โดยในช่วงครึ่งปีแรก คาดว่าจะขยายตัว 3-5% ขณะที่ครึ่งปีหลัง ขยายตัวได้ 3-4% พร้อมมองว่าสัญญาณการส่งออกในเดือนก.พ.มีแนวโน้มดีขึ้น สอดคล้องกับสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีความชัดเจน เช่น ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในรอบ 3 เดือน, ความต้องการใช้น้ำมันของโลกที่เริ่มขยายตัว สะท้อนจากราคาน้ำมันเฉลี่ยที่เพิ่มสูงขึ้นจากปลายปีก่อน และการกระจายวัคซีนต้านไวรัสCovid-19 ที่มีประสิทธิภาพในหลายภูมิภาค
  • ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์กล่าวว่ามูลค่าส่งออกรายเดือนจะต้องอยู่ที่ประมาณ 20,093 ล้านดอลลาร์ฯ เพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายตัวที่ตั้งไว้ 4%
  • ด้าน Growth Pattern ของการส่งออกในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ อาจจะได้เห็นการขยายตัวที่ต่ำกว่าไตรมาสอื่น เนื่องจากเป็นการเทียบกับฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งในไตรมาสแรกของปี 2021 เศรษฐกิจเพิ่งเริ่มกลับมาฟื้นตัว ขณะที่คาดว่าการส่งออกในไตรมาส 2 ปีนี้ จะมีอัตราการขยายตัวมากสุดในระดับ 2 หลักได้ เนื่องจากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ฐานต่ำจากผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของไวรัส Covid-19