ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญเห็นพ้องต้องกันว่า การลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไม่เพียงพออีกต่อไป โดยตามรายงานเมื่อปี 2018 คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ระบุว่า หากเราจำกัดภาวะโลกร้อนได้ 1.5 องศาเซลเซียส และหลีกเลี่ยงผลกระทบเชิงลบจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงได้ โดยเราต้องการขจัดคาร์บอนไดออกไซด์ 100 -1,000 กิกะตัน จากชั้นบรรยากาศ ในช่วงศตวรรษที่ 21 นี้
แม้การลดก๊าซคาร์บอนจะทำได้โดยธรรมชาติจากต้นไม้ที่ปลูก หรือการปรับปรุงการจัดเก็บคาร์บอนในดินผ่านการทำเกษตรที่ยั่งยืน เช่น ปลูกพืชหมุนเวียน แต่บริษัทจำนวนหนึ่งกำลังทำงานกับทางเลือกวิศวกรรมสำหรับขจัดคาร์บอน กระบวนการนี้เรียกว่าการดักจับอากาศโดยตรง โดยดูดคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศโดยตรงแล้วฝังไว้ใต้ดิน
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังมีราคาแพงมาก จากข้อมูลสมุดปกขาวที่เผยแพร่โดยไมโครซอฟท์ปีนี้ พบว่า ต้นทุนของการดักจับอากาศโดยตรงคิดเป็น 50 เท่า ของต้นทุนต่อเมตริกตันสำหรับการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศตามธรรมชาติส่วนใหญ่
ทั้งนี้ บริษัทต่างๆ เช่น ไมโครซอฟท์ เชฟรอน ออกซิเดนทัล และผู้มีวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยี เช่น อีลอน มัสก์ และบิลล์ เกตส์ ต่างก็ลงทุนในเทคโนโลยีขจัดคาร์บอน แต่ผู้ที่อยุ่ในอุตสาหกรรมเน้นย้ำว่า หากกำจัดคาร์บอนออกไปได้จริง ก็ต้องการการสนับสนุนจากรัฐบาล