สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า สหภาพยุโรปต้องการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำสมัย ในสัดส่วน 1 ใน 5 ของโลก ภายใน 10 ปีนี้ และต้องการมีควอนตัมคอมพิวเตอร์เครื่องแรกภายใน 5 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการสนับสนุนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีที่ไม่ได้มาจากยุโรป
แผนงานของยุโรปนี้มีชื่อว่า 2030 ดิจิทัล คอมพาส เกิดขึ้นในช่วงที่มีไวรัสแพร่ระบาด ซึ่ง 27 ประเทศสมาชิกของยุโรป พึ่งพาเทคโนโลยีที่บริษัทจีนและสหรัฐฯ เป็นเจ้าของ
ทั้งนี้ ในแผนงานให้ความสำคัญกับเซมิคอนดักเตอร์ ที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับรถยนต์ สมาร์ทโฟน อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง และปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และใช้ในกรณีที่ทั่วโลกกำลังประสบปัญหาขาดแคลนจนต้องปิดโรงงานผลิตรถยนต์
“เป้าหมายของเราคือผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำสมัยและมีความยั่งยืนในยุโรป รวมถึงชิปประมวลผล อย่างน้อย 20% ของการผลิตทั่วโลกในเชิงมูลค่า” ข้อมูลตามเอกสารของยุโรป ที่รอยเตอร์ส พบเห็น
นอกจากนี้ ยุโรปยังวางแผนสนับสนุนการลงทุนในเทคโนโลยีควอนตัม เนื่องจากมองว่าจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมในการพัฒนายาใหม่ๆ และเร่งความเร็วในการจัดลำดับจีโนม
ขณะเดียวกัน ยุโรปยังมีแผนที่จะลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นกลางต่อสภาพภูมิอากาศ ภายในปี 2030 โดยช่วยให้ยุโรปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของตัวเองและเพิ่มธุรกิจระดับยูนิคอร์นที่มีมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปในช่วงเวลาเดียวกัน ไม่เพียงเท่านี้ยังมีแผนให้ครัวเรือนในยุโรปทั้งหมด เข้าถึงเครือข่าย 5G ที่ครอบคลุมภายในปี 2030