สรุปความสัมภาษณ์ เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP®
ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน
ปัจจุบันคนให้ความสนใจลงทุนในกองทุนหุ้นต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนตาม theme แต่สำหรับบางคนแล้วก็อาจยังสงสัยว่าลงทุนตาม theme เป็นอย่างไร แล้ว theme แบบไหนที่น่าสนใจ
การลงทุนในกองทุนรวมมีรูปแบบที่หลากหลาย อาจแบ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในประเทศและต่างประเทศ สำหรับกองทุนต่างประเทศก็เป็นการลงทุนในรายประเทศ ภูมิภาคหรือกลุ่มประเทศ เช่น ลงทุนในญี่ปุ่น อินเดีย เอเชีย กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว หรือประเทศตลาดกำลังพัฒนาต่างๆ แต่จริงๆ แล้วมีรูปแบบการลงทุนอีกแบบที่ไม่ได้กำหนดเป็นภูมิภาคหรือประเทศ แต่กำหนดเป็น theme คือ แนวคิดหรือลักษณะร่วมกันบางอย่างของกลุ่มบริษัทที่ลงทุน
เช่น theme เฮลธ์แคร์ คือ กลุ่มหุ้นที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเฮลธ์แคร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้าขายยา การค้นคว้าวิจัยยา เครื่องมือแพทย์ หรือแม้แต่การบริการที่เกี่ยวข้อง ถ้าเป็น theme แบบนี้จะไม่ได้กำหนดภูมิภาค ไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นหุ้นประเทศไหน แต่เป็นการพิจารณาว่า theme ไหนที่มีโอกาสเติบโตในระยะยาว เป็นเทรนด์ใหญ่ที่น่าสนใจ ก็จัดตั้งเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับ theme นั้น โดยอาจเลือกลงทุนหุ้นเอง หรือไปเลือกลงทุนผ่านกองทุนต่างประเทศอีกทีก็ทำได้
การลงทุนตาม theme ส่วนใหญ่จะพิจารณาว่า มีความเคลื่อนไหวใดหรือกระแสใดที่ส่งผลบวกต่อกิจการ หรือสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในอนาคต แล้วเราก็ลงทุนใน theme นั้น
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปีที่แล้ว theme เทคโนโลยีมีความโดดเด่นมาก เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมเดียวที่ได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพราะทุกคนต้องหันมาใช้เทคโนโลยีในการดำเนินชีวิต หรือการดำเนินงานต่างๆ และถึงแม้โรคโควิด-19 จะจบไป แต่การใช้เทคโนโลยีก็ไม่จบ เพราะทุกคนเห็นแล้วว่ามีประโยชน์ในการใช้ชีวิตประจำวันแค่ไหน
นอกเหนือจากเรื่องเทคโนโลยีแล้ว กิจการที่มีนวัตกรรมก็เป็นอีก theme ที่น่าสนใจ เพราะถ้าพูดถึงแค่เทคโนโลยี อาจจะจำกัดกรอบแค่อุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่เมื่อพูดถึง theme นวัตกรรมแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นกิจการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องไอทีเท่านั้น
การจ่ายเงินกับกิจการเทคโนโลยีที่เห็นได้ชัด คือ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องใหม่ หรือถ้าเป็นรถยนต์ก็กลุ่มรถยนต์ไฮบริด แต่ถ้าดูย้อนไปลึกๆ แล้วเทคโนโลยีมาพร้อมนวัตกรรม มีกิจการมากมายที่ปรับตัวหรือใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ โดยไม่ต้องเป็นกิจการด้านไอที แต่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อให้ธุรกิจตนเองเติบโตสู้กับการเปลี่ยนแปลงและ Disruption ได้ สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันได้ เช่น การสั่งอาหารออนไลน์ที่กดแอปพลิเคชันสั่งได้เลย คือการนำเทคโนโลยีมาร่วมกับสินค้าที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน แปลว่า แอปพลิเคชันคือส่วนกิจการเทคโนโลยีที่ดี ส่วนธุรกิจร้านอาหารหรือกิจการที่เราไปสั่งซื้อสินค้าออนไลน์คือกิจการที่รู้จักปรับตัวใช้นวัตกรรมใหม่ ช่องทางใหม่
โดยรวมแล้วนวัตกรรมเป็นประโยชน์กับธุรกิจหลายๆ ประเภท ไม่ได้มีเฉพาะเทคโนโลยีเท่านั้น เทคโนโลยีมีความโดดเด่นในตัวเองก็จริง แต่มากกว่านั้นคือการเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ธุรกิจอื่นเดินไปได้
เราอาจมองเห็นนวัตกรรมแค่การใช้แอปในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นการใช้นวัตกรรมของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย แต่จริงๆ แล้วมีนวัตกรรมอีกมากมายที่อยู่ในกระบวนการผลิต การลดต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง เราอาจเคยได้ยินว่ากิจการร้านค้าที่เป็นแฟรนไชส์เยอะๆ จะใช้ระบบฐานข้อมูลในการดูว่าลูกค้าซื้ออะไรมากๆ เพื่อจัดการและควบคุมได้ว่าจะส่งสินค้าชนิดนี้ไปพื้นที่เดียวกันเท่าไหร่ เพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์ ก็ถือเป็นเรื่องการใช้นวัตกรรมเพื่อประโยชน์ของธุรกิจที่ไม่ได้เป็นเทคโนโลยีโดยตรง
สำหรับกองทุนบัวหลวง มีกองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลธีมเมติกออพพอร์ทูนิตี้ (B-GTO) ที่ลงทุนในกิจการหรือธุรกิจที่เน้นการนำนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ประโยชน์ รวมถึงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ พัฒนาผลิตภัณฑ์ การลดต้นทุนต่างๆ ก็อยู่ในขอบข่ายที่กองทุนนี้เลือกลงทุนได้ปัจจุบันโลกอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลง กิจการที่จะอยู่รอดหรือเติบโตได้ หัวใจสำคัญคือการรู้จักนำนวตกรรมมาใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ และนี่คือกิจการที่กองทุน B-GTO กำลังมองหา