ค่าเช่าถูกลงและพื้นที่ว่างเพิ่มหนุนค้าปลีกสหรัฐฯ สนใจเปิดหน้าร้านมากขึ้น

ค่าเช่าถูกลงและพื้นที่ว่างเพิ่มหนุนค้าปลีกสหรัฐฯ สนใจเปิดหน้าร้านมากขึ้น

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ปีนี้เป็นปีแรกในรอบหลายๆ ปี ที่ผู้ค้าปลีกทั่วสหรัฐฯ วางแผนขยายหน้าค้ามากขึ้นกว่าจำนวนร้านค้าที่จะปิด โดยหลายธุรกิจฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด และมีการปัดฝุ่นแผนขยายธุรกิจจากที่ระงับเอาไว้ก่อนหน้านี้

ตัวอย่างล่าสุดคือ ฟาเบลติกส์ ผู้ค้าปลีกเครื่องแต่งกายกีฬา มีแผนการเปิดหน้าร้านเพิ่มกว่า 20 แห่งในสหรัฐฯ ในปีนี้ ส่วนทอย อาร์ อัส ซึ่งเป็นเครือร้านของเล่น ที่เคยถูกฟ้องล้มละลายเมื่อปี 2017 และเลิกกิจการไป ก็ได้เจ้าของกิจการใหม่แล้ว ซึ่งก็กำลังมองหาลู่ทางเปิดร้านแห่งใหม่ในปีนี้

ผู้ค้าปลีกต่างก็กระตือรือร้นที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของแบรนด์ให้กลับมาหลังจากการแพร่ระบาด ประกอบกับะพวกเขามีความตื่นเต้นที่จะทดลองแนวคิดใหม่ที่จะมอบให้กับผู้บริโภค รวมทั้งค่าเช่าที่ราคาถูกลง ทำให้พวกเขารู้สึกมีโอกาสเพิ่มขึ้นในการเปิดร้านค้าใหม่ๆ

จากข้อมูลล่าสุดของ คอร์ไซต์ รีเสิร์ช ระบุว่า จากข้อมูลตั้งแต่ต้นปีถึงตอนนี้มีผู้ค้าปลีกในสหรัฐฯ ประกาศเปิดร้านค้าแล้ว 3,199 แห่ง และปิดร้านค้า 2,548 แห่ง ขณะที่ปีที่ผ่านมา มีการปิดร้านค้า 8,953 แห่ง และเปิดร้านค้าเพียง 3,298 แห่ง จากผลกระทบการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น ซึ่งกระทบอุตสาหกรรมค้าปลีก และทำให้ธุรกิจกว่าหลายสิบรายต้องเผชิญกับภาวะล้มละลาย

Adam Goldenberg ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟาเบลติกส์ กล่าวถึงเหตุผลการขยายร้านค้าในสหรัฐฯ ว่า มีจำนวนพื้นที่ว่างมากขึ้น และเราได้รับเงื่อนไขที่ดีขึ้นในวันนี้เมื่อเทียบกับเมื่อ 2 ปีก่อน