สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า จากผลสำรวจของรอยเตอร์สที่จัดทำขึ้นรอบล่าสุด พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ต่างมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีนี้จะเติบโตเร็วที่สุดในรอบหลาย 10 ปีที่ผ่านมา และจะมีผลงานที่โดดเด่นกว่าคู่แข่งหลักๆ โดยนักเศรษฐศาสตร์ต่างปรับมุมมองดีขึ้นอย่างชัดเจน ในขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ถือเป็นความเสี่ยงใหญ่ที่สุดสำหรับช่วง 3 เดือนข้างหน้า
นักเศรษฐศาสตร์กว่า 100 คน ได้ทำแบบสำรวจของรอยเตอร์ส เมื่อวันที่ 16-20 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งผลสำรวจสะท้อนถึงมุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะได้รับดีจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมาตรการบรรเทาทุกข์จากการแพร่ระบาด 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ผ่านออกมาเรียบร้อยแล้ว และยังมีแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน นำเสนอด้วย
เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนี้ ได้รับการคาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ย 6.2% ในปีนี้ ซึ่งเป็นมุมมองที่สดใสที่สุดนับตั้งแต่iรอยเตอร์สเริ่มจัดทำผลสำรวจนี้ขึ้นมากว่า 2 ปีแล้ว และหากทำสำเร็จตามมุมมองที่คาดการณ์ไว้ ก็จะทำให้ปีนี้ถือเป็นปีที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 1984
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ล่าสุดคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัว 6.4% ในปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นมุมมองเชิงบวกที่มากกว่าการสำรวจของรอยเตอร์ส
ในการสำรวจของรอยเตอร์สนั้น พบว่า 15% ของนักเศรษฐศาสตร์ 105 คน คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 7% หรือมากกว่านั้นในปีนี้ และจากข้อมูลพบว่า กลุ่มที่คาดการณ์การเติบโตสูงมีมากขึ้นและสูงกว่ากลุ่มที่คาดการณ์ไว้ต่ำ ขณะที่เกือบ 70% ของนักเศรษฐศาสตร์ ระบุว่า ความท้าทายใหญ่ที่สุดของเศรษฐกิจคือยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่อาจกลับมาเพิ่มขึ้นในรอบ 3 เดือนข้างหน้า