โควิดระลอกใหม่ ลงทุนต่อหรือชะลอก่อนดี

โควิดระลอกใหม่ ลงทุนต่อหรือชะลอก่อนดี

โดย…เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP®

กองทุนบัวหลวง

ผมเชื่อว่า หลายคนคงอยู่ในอารมณ์เดียวกัน คือ เมื่อไหร่โควิดจะจบสักที รอว่า เมื่อไหร่เราจะได้ฉีดวัคซีนได้เยอะๆ ส่วนการลงทุนในสถานการณ์ระบาดที่รุนแรงแบบนี้ เรายังควรลงทุนต่อไปไหม หรือดูก่อนดี

มองในแง่ของการลงทุน การลงทุนอย่างต่อเนื่อง คือ สิ่งที่ควรทำ โดยเฉพาะคนที่ยังมีงานทำ มีรายได้ มี เงินเดือนก็ควรทยอยลงทุน เพราะทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ ตลาดหุ้นมักผันผวนในทิศทางที่เราคาดเดาได้ยากเสมอ

หากเราตัดความกังวลจากสถานการณ์ออกไป จะเห็นว่า แม้จะเกิดปัญหาโควิดระลอกใหม่ แต่ตลาดหุ้นไทยก็ไม่ได้แย่ ดัชนี SET อยู่ในระดับ 1,500 – 1,600 จุด เพราะนักลงทุนมองข้ามความวุ่นวายในวันนี้ไปแล้ว โดยมองไปถึงในวันที่เราจะได้ฉีดวัคซีนกัน ซึ่งเศรษฐกิจจะกลับมา ส่วนความผันผวนก็มักเกิดตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่เริ่มกังวลกับเรื่องอัตราดอกเบี้ยมากกว่า

โดยรวมแล้วสถานการณ์โควิด กระทบทั่วโลก และรอวันที่ประชาชนจะได้รับการฉีดวัคซีนจำนวนมากๆ แสดงว่า เป็นผลกระทบที่มีวันจบ หรือบรรเทาลงไป ดังนั้น จึงควรลงทุนต่อเนื่องอยู่

สำหรับใครที่ลงทุนแบบถัวเฉลี่ย หรือ DCA ไว้และยังคงมีรายได้ อยากย้ำว่า ห้ามหยุดนะครับ ลงทุนต่อไปเรื่อยๆ เวลาเราลงทุนเป็นรายเดือนจะใช้เงินจำนวนน้อยกว่าเวลาเราลงทุนเป็นก้อน ผลกระทบในวันที่เข้าซื้อทุกเดือนแล้วเจอราคาสูงเพราะตลาดผันผวนก็จะไม่มากเท่าการซื้อเป็นเงินก้อน ซึ่งเป็นข้อดีพื้นฐานของ DCA สำหรับการขจัดปัญหาเรื่อง market timing อยู่แล้ว ปกติเราตั้งเป้าหมายระยะยาวกับการซื้อกองทุนโดยเฉพาะกองทุนหุ้น ดังนั้น จึงควรพยายามลงทุนต่อเนื่องไป ส่วนการยกเลิกหรือลดการลงทุนจะแนะนำก็ต่อเมื่อรายรับลดลงหรือหายไป จนการจัดสรรเงินมาลงทุนต่อทำได้ยากเท่านั้น

กรณีนี้ อาจต้องปรับเปลี่ยนการลงทุนครับ

ในวันที่หลายคนตกงาน เงินเดือนลดลง OT หาย รายได้หด ขายของไม่ได้ แบบนี้กระทบกับ cashflow ของเราโดยตรง ดังนั้น ต้องดูว่า เงินที่หายไปส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตเราไหม ถ้าใช่ อาจจะต้องลดเงินลงทุนลง เพื่อให้ปัจจุบันอยู่ได้ อันนี้เป็นความจำเป็น ซึ่งขึ้นกับแต่ละคน

คำแนะนำกรณี cashflow ลดลง คือ รีบดูก่อนเลยว่า แต่ละเดือน เรามีรายจ่ายจำเป็นอะไรบ้าง หนี้สินที่ต้องชำระรายเดือนมีเท่าไร รวมถึงภาระหนี้สินที่ต้องจ่ายใน 6 เดือนข้างหน้า มีรายจ่ายฟุ่มเฟือยอะไรตัดได้ ลดได้ แล้วตรวจดูว่า มีเงินสำรองยามฉุกเฉินเพื่อใช้จ่ายกับชำระหนี้สินใน 6 เดือนข้างหน้าหรือยัง ส่วนนี้ คือ ความจำเป็นที่ต้องมีให้ครบก่อนการลงทุนครับ พักเงินส่วนนี้ไว้ในกองทุนตราสารหนี้ความเสี่ยงต่ำๆ ก่อน ถ้ากันแล้วยังมีเงินเหลือก็ลงทุนต่อตามแผนเดิม หรือลดลงตามความเหมาะสม หรือถ้าเงินยังไม่เพียงพอ ก็ต้องชะลอลดการลงทุนก่อนได้ เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ค่อยกลับมาลงทุนใหม่อีกครั้ง