ซีเอ็นบีซี รายงานว่า นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าของเศรษฐกิจ โดยระบุว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่ลดการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย โดยเขามองว่า นโยบายทางการคลังและการเงิน รวมถึงความพยายามในการฉีดวัคซีนเชิงรุกจะช่วยให้การเติบโตทางเศรษฐกิจยังดำเนินต่อไป นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือน มี.ค. 2020
เขา กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่เฟดควรใช้นโยบายแบบผ่อนคลายที่ดำเนินการอยู่ต่อไป จนกว่าจะเห็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าไวรัสจะไม่ได้เป็นภัยคุกคามสำคัญอีก ซึ่งรวมถึงการรักษาอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระยะสั้นเอาไว้ใกล้ระดับ 0% และการซื้อสินทรัพย์ต่อเนื่องอย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ขณะที่ในตลาดยังสงสัยอยู่ว่าเมื่อไหร่ที่เฟดจะเริ่มดึงเงินกลับจากสินทรัพย์ที่ซื้อไว้เหล่านี้
บูลลาร์ด มองว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดคุยเรื่องการทำ taper หรือการลดการซื้อสินทรัพย์ โดยเมื่อเวลานั้นมาถึงก็คงต้องให้นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด เปิดการประชุมเพื่อหารือ ในช่วงเวลาที่เขาคิดว่าเหมาะสม
จนถึงเวลานี้ ทั้งพาวเวลล์ บูลลาร์ด และผู้กำหนดนโยบายคนอื่นๆของเฟด ก็ยังออกมาพูดพร้อมเพรียงกันว่าจะยังรักษาการใช้นโยบายผ่อนคลายมากๆ แบบนี้ต่อไป
เฟดมีเป้าหมายที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาโดยสมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดการจ้างงาน และให้คำมั่นว่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงเกินกว่าเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้ที่ 2% ก็ตาม