โดย…ทนง ขันทอง
หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้แบล็คร็อคประสบความสำเร็จในการเป็นบริษัทจัดการลงทุน คือ ความได้เปรียบในการแข่งขันด้านเทคโนโลยี นั่นคือ แบล็คร็อคมีระบบอะลาดิน (Aladdin) ที่เชื่อมโยงข้อมูลการลงทุนทุกอย่างบนโลกบนแพลตฟอร์มเดียว
อธิบายอย่างง่ายๆ ว่า ระบบอะลาดินช่วยในการวิเคราะห์ด้านความเสี่ยงให้กับการบริหารพอร์ต พร้อมเครื่องมือด้านการเทรดทรัพย์สินต่างๆ และระบบปฏิบัติการที่อยู่บนแพลตฟอร์มเดียว
นายลาร์รี่ ฟิงค์ ซีอีโอของแบล็คร็อค พูดให้นักลงทุนผ่านคอนเฟอร์เรนซ์ คอลล์ ว่า แพลตฟอร์ม เทรดดิ้ง และข้อมูลของอะลาดินช่วยให้แบล็คร็อคเข้าถึงสภาพคล่องของตลาดที่น้อยบริษัทจะสามารถทำได้ ความเชี่ยวชาญด้านข้อมูลของแบล็คร็อคทำให้สามารถเปลี่ยนข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาลและไม่เป็นระเบียบให้มีความหมายในแง่การลงทุน โดยทีมงานการวิเคราะห์ด้านความเสี่ยงและเชิงปริมาณจะช่วยดูแลให้คำแนะนำด้านการบริหารความเสี่ยงและโอกาสของการลงทุนที่เป็นอิสระอีกต่อหนึ่ง
ระบบอะลาดิน แบ่งออกเป็น 2 หน่วย เพื่อความสะดวกในการบริหารและการให้บริการลูกค้า คือ อะลาดิน เอ็นเทอร์ไพรซ์ (Aladdin Enterprise) สำหรับนักลงทุนสถาบัน และอะลาดิน เวลท์ (Aladdin Wealth) สำหรับการบริหารความมั่งคั่ง
สำหรับอะลาดิน เอ็นเทอร์ไพรซ์เป็นระบบซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการบริหารพอร์ตการลงทุน โดยรวบรวมข้อมูลการวิเคราะห์เชิงอะนาลิติกส์ที่สลับซับซ้อนกับเครื่องมืออื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น การเทรด ระบบปฏิบัติการ คอมไพลแอนซ์ และการบัญชีบนแพลตฟอร์มเดียว
ด้วยข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์จัดระเบียบเป็นมาตรฐานชุดเดียวกัน ระบบอะลาดิน เอนเทอร์ไพรซ์ช่วยให้การลงทุนที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายการดำเนินงานจนไปครบวงจรของการลงทุน ข้อมูลเชิงวิเคราะห์ช่วยให้หน่วยงานที่ใช้สามารถสื่อสารกัน เห็นปัญหาที่จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที อันนำไปสู่การตัดสินใจการลงทุนในทุกขั้นตอน
ส่วนอะลาดิน เวลท์ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยในการบริหารพอร์ตและบริหารความเสี่ยง ช่วยให้ที่ปรึกษาการลงทุนมีปฏิสัมพันธ์กับนักลงทุน โดยระบบนี้จะเป็นต้นแบบของการบริหารความมั่งคั่งในอนาคต
กล่าวโดยรวมแล้ว มีนักบริหารการเงินและพอร์ตการลงทุนที่ใช้บริการอะลาดิน เอ็นเทอร์ไพรซ์และอะลาดิน เวลท์อยู่ทั่วโลกประมาณ 55,000 คนที่ทำงานให้บริษัทและหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บริษัทประกันภัย องค์กรบริหารเงินบำนาญ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัท บริษัทจัดการลงทุน ธนาคารและสถาบันการเงินของรัฐ
ที่สำคัญ ธนาคารกลางของสหรัฐฯ และธนาคารกลางของสหภาพยุโรปก็เป็นลูกค้าของระบบอะลาดินด้วย
แบล็คร็อคมีนักพัฒนากว่า 1,500 คน ที่เน้นทำงานเพื่อพัฒนาคุณภาพของระบบอะลาดิน เพื่อใช้งานเองและให้บริการกับลูกค้าสถาบัน
ระบบอะลาดินให้บริการเป็นโฮสท์ รวมท้ังโครงสร้างพื้่นฐานด้านเทคนิค ระบบการจัดการ โดยมีข้อมูลเชื่อมโยง แบล็คร็อคมีผู้เชี่ยวชาญ 600 คนทำงานด้านการสร้างและคอนโทรลข้อมูลและวิเคราะห์ให้ลูกค้า
ที่สำคัญ ระบบอะลาดินช่วยในการหาทางออกที่คล่องตัวทำสำหรับขบวนการลงทุนท้ังหมดของทุกประเภทสินทรัพย์ รวมท้ังทรัพย์สินทางเลือกของการลงทุน
ในปี 2020 ระบบอะลาดินเกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพย์สินต่างๆ ทั่วโลกในปริมาณรวมกันมากถึง 21.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
“เทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญหลักของแบล็คร็อค ซึ่งช่วยทำให้เราแตกต่างจากบริษัทอื่นๆ ในขณะที่ภูมิทัศน์ของการลงทุนมีวิวัฒนาการเปลี่ยนไป เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนถ่ายจากความได้เปรียบในการแข่งขัน ดังนั้น จึงเป็นความจำเป็นในการแข่งขันที่ทุกบริษัทต้องมี บริษัทที่ไม่ได้ลงทุนด้านเทคโนโลยีจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในระยะยาว เทคโนโลยียังคงเป็นจุดโฟกัสและการลงทุนของแบล็คร็อค เพื่อที่จะปรับปรุงขบวนการลงทุน ช่วยในการบริการให้ลูกค้าได้ดีขึ้น ช่วยเสริมประสิทธิภาพ โดยทุกอย่างทำบนแพลตฟอร์มเดียวของเทคโนโลยีระบบอะลาดิน” นายฟิงค์ กล่าว
และนี่คือระบบที่แบล็คร็อคใช้ และมีส่วนสำคัญที่ทำให้แบล็คร็อคบริหารกองทุน BGF Fintech Fund ได้ครอบคลุมทุกด้าน ซึ่งกองทุนนี้เป็นกองทุนหลักที่ กองทุนเปิดบัวหลวงฟินเทค (B-FINTECH) จะเข้าไปลงทุนนั่นเอง