สำนักข่าว Reuters รายงานว่า สหภาพยุโรป (อียู) กำลังวางแผนทำให้ตลาดคาร์บอนมีความแข็งแกร่งขึ้น เพื่อลดการปล่อยมลพิษให้รวดเร็วขึ้นและกำหนดต้นทุนของการสร้างมลพิษในธุรกิจใหม่
ระบบการซื้อขายการปล่อยมลพิษของสหภาพยุโรป (ETS) เป็นนโยบายภูมิอากาศส่วนกลางของกลุ่มอียู ซึ่งบังคับให้โรงงานไฟฟ้า โรงงานผลิต และสายการบินต้องดำเนินการซื้อใบอนุญาตเมื่อต้องปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งในเดือนหน้าคณะกรรมาธิการยุโรปจะเสนอให้ปรับปรุงระบบนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจนโยบายที่ออกแบบมาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ
ขณะที่ Bloomberg ระบุว่า ในร่างข้อเสนอนั้นจะระบุว่า การขอใบอนุญาตในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใน ETS จะต้องทำแบบตัดครั้งเดียว และจำนวนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใส่เข้าไปขออนุญาตในระบบ ETS ทุกปี จะต้องลดลงในอัตราที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตามไม่มีการระบุอัตราที่แน่ชัดไว้
โฆษกของคณะกรรมาธิการยุโรป ไม่ได้ตอบความเห็นเกี่ยวกับร่างข้อเสนอนี้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้างจากร่างที่เผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้
ร่างข้อเสนอนี้จะสร้างความแข็งแกร่งให้ตลาด ETS ทำให้เกิดการสำรองที่มีเสถียรภาพซึ่งเป็นกลไกที่ออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมใบอนุญาตไว้เกินซึ่งอาจไปกดดันราคาคาร์บอนในอียูได้
ทั้งนี้ พบว่า มีการขอใบอนุญาตในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านตลาด EST เอาไว้มากกว่า 1,096 ล้านใบ โดยการสำรองใบอนุญาตนี้จะถูกดูดซับออกไป 24% ต่อปี จนถึงปี 2030 เมื่อมีใบอนุญาตหมุนเวียน 833-1,096 ล้านใบในระบบ การสำรองใบอนุญาตในระยะถัดไปก็จะลดลงเหลือต่ำกว่า 833 ล้านใบต่อไป