โดย อรพรรณ บัวประชุม CFP^®

SSF หรือ กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Saving Fund) มีดียังไง แล้วทำไมต้องของกองทุนบัวหลวงด้วย

ต้องบอกก่อนว่า SSF ซื้อที่ไหน เงื่อนไขทางภาษีก็เหมือนกัน คือ ลงทุนแล้วต้องถือยาว 10 ปีเต็ม ส่วนจะมีปันผลหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกองทุนว่าจะมีนโยบายจ่ายเงินปันผลด้วยมั้ย แต่ข้อสงสัยที่ว่าทำไมถึงต้องลงทุนกองทุน SSF กับ กองทุนบัวหลวง นั่นเป็นเพราะ

1.มีความหลากหลายให้เลือก แม้ว่าสิทธิลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีทางภาครัฐจะให้ไว้เพียงแค่ 5 ปี แต่กองทุนบัวหลวงมีหลากหลายนโยบายกองทุนให้เลือก เพื่อความครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น

• กองทุนหุ้นไทยล้วนๆ ที่ลงทั้งหุ้นใหญ่ หุ้นกลาง หุ้นเล็ก ทั้ง SET ทั้ง MAI (ธุรกิจขนาดเล็ก ที่มีทุนหลังระดมทุน IPO 50 ล้านบาทขึ้นไป) รวมๆ แล้วไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน นั่นก็คือ กองทุน BEQSSF หรือ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นไทยเพื่อการออม
• หรือจะลงทุนแบบซอฟต์ๆ จำกัดการลงทุนในหุ้นช่วงระหว่าง 65-70% ก็จะเป็นกองทุน BM70SSF หรือ กองทุนผสมบัวหลวง 70/30 เพื่อการออม ที่ชัดเจนในเรื่องสัดส่วนการลงทุน ส่วนที่เหลือก็ลงตราสารหนี้ เพื่อเสริมความมั่นคง
• หากอยากผสมผสานมากขึ้น ลงทุนได้ทั้งหุ้นไทยหุ้นเทศ ต้อง B-INCOMESSF หรือกองทุนเปิดบัวหลวงอินคัมเพื่อการออม ที่ลงทุนในกองทุนเปิด B-INCOME สามารถลงทุนในต่างประเทศได้สูงถึง 79% ของพอร์ตการลงทุน นอกจากนี้ยังผสมการลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาฯ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาฯ
• ยังไม่พอค่ะ ยังมีกองทุนต่างประเทศเน้นลงทุนใน AI ปัญญาประดิษฐ์ หรือ Fintech  รวมถึงหุ้นของบริษัทจีนที่เป็นเทรนด์อนาคต และพลังการบริโภคของคนจีน อย่างกองทุน B-FUTURESSF หรือ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นฟิวเจอร์เพื่อการออม ที่ลงทุนในกองทุนเปิด B-FUTURE
• กองทุนน้องใหม่ B-GTOSSF หรือกองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลธีมเมติกออพพอร์ทูนิตี้เพื่อการออมเน้นลงทุนในบริษัทที่ได้ประโยชน์จากนวัตกรรมใหม่ๆ จากทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก ทั้ง IT, Consumer, Communication services, Health Care ต้องบอกว่าทุกอุตสาหกรรมทั่วโลกจริงๆ โดยกองทุนหลักคือ กองทุน Wellington Global Innovation Fund
• และสุดท้ายคือ B-CHINESSF หรือกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีนเพื่อการออม ที่ลงทุนในกองทุนเปิด B-CHINE-EQ ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นจีนทั่วโลก ยิ่งจีนเติบโตเราก็เติบโตไปกับจีนด้วย

2.มีโอกาสได้เงินปันผล เพราะมีหลากหลายนโยบาย หลากหลายกองทุน จึงมีกองทุนที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล หากกองทุนมีกำไร ไม่ว่าจะเป็นกองทุน BM70SSF กองทุน B-FUTURESSF หรือ กองทุน B-CHINESSF ทำให้เลือกลงทุนได้ง่ายขึ้น

3.สะดวกสบายแค่ปลายนิ้ว ไม่ว่าจะซื้อ จะขาย หรืออยากจะสับเปลี่ยน ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Application Bangkok Bank Mobile Banking โดยรายการที่ทำหลังเวลา 16.00 น. จะเป็นการทำรายการล่วงหน้า เพื่อให้การทำธุรกรรมราบรื่นไม่มีสะดุด นอกจากนี้ ยังเห็นทุกจังหวะการลงทุน ไม่ว่าจะลงทุนเมื่อไหร่ วันไหน กองทุนอะไร ก็จะเห็นต้นทุนการลงทุนของเราทุกครั้ง รวมถึงต้นทุนถัวเฉลี่ยถ้าเราลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ทำให้สามารถติดตามเทรนด์การลงทุน และลงทุนได้ตลอดเวลา

แหม…รู้อย่างนี้แล้ว ไม่ลงทุนไม่ได้แล้วนะคะ