โดย…ทนง ขันทอง
ตามรายงาน Global Equity View 3Q 2021 ล่าสุดที่จัดทำโดย JP Morgan Asset Management มองว่า ผลประกอบการหรือกำไรของบริษัทจะยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และจะสูงกว่าระดับที่ถือว่าเป็นประวัติการณ์ของปีนี้
หนึ่งปีให้หลังจากการระบาดของไวรัส JP Morgan Asset Management เชื่อว่าสหรัฐฯ ได้ผ่านความเลวร้ายที่สุดของโรคระบาดไปแล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะไม่กลับไปชัตดาวน์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ อีกคร้ังเหมือนกับในปีที่แล้ว และมีหลายคนมองว่าการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลต้าน่าจะสิ้นสุดในปีนี้ และสายพันธุ์อื่นๆ ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรมากต่อไปข้างหน้า
สิ่งที่ควรจับตาดูคือการเร่งตัวของการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างที่มีอยู่ จากเทคโนโลยีที่สร้างความปั่นป่วน หรือ disruption ที่นำไปสู่ธุรกิจ หรือโอกาสใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ตคอมเมิร์ซ เวอร์ชวลแบงกิ้ง หรือการนำเอาเทคโนโลยีคลาวด์มาใช้
แต่สิ่งที่สร้างเซอร์ไพรซ์มากที่สุด คือ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากโรคระบาด เนื่องจากนโยบายการเงิน และนโยบายการคลังที่ผ่อนคลายแบบใจดีสุดๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ รวมท้ังประสิทธิภาพของวัคซีนที่ช่วยลดการติดเชื้อ การล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล หรือการเสียชีวิต
JP Morgan Asset Management มองว่า กลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน และบริษัททางด้านอุตสาหกรรมจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่สำคัญที่สุดของตลาดหุ้น โดยประโยชน์ที่ได้ จะกระจายไปทั่วทั้งอุตสาหกรรมและภูมิภาคต่างๆ
ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2021 นี้ จะเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงของอัตราของผลกำไรที่สูงที่สุด แต่แนวโน้มข้างหน้าผลกำไรของบริษัทยังคงดูดีต่อเนื่อง เนื่องจากนโยบายการเงินจะยังคงเกื้อกูลตลาดการเงิน ถึงแม้ว่าจีนจะพยายามชะลอการกระตุ้นในนโยบายการเงิน อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงลื่นไหล และบริษัทสามารถส่งผ่านค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นให้กับผู้บริโภค
เนื่องจากราคาหุ้นขึ้นสูงไปมาก และหุ้นหลายตัวดูเหมือนว่าจะมีราคาแพง การประเมินราคาหุ้นที่ควรจะต่ำลงจะถูกหักล้างกับการเติบโตของผลกำไรของบริษัทในอีก 5 ปีข้างหน้า โดย JP Morgan Asset Management คาดการณ์ว่า ผลประกอบการจะอยู่ในระดับกลางๆ
ถึงแม้ว่าปัจจัยพื้นฐานของการเติบโตของผลกำไรยังคงเข้มแข็ง แต่ควรที่จะมีความระมัดระวังในระยะสั้น เนื่องจากราคาหุ้นขึ้นสูงไปมากในช่วงปีที่ผ่านมา อารมณ์ของการเก็งกำไรในช่วงต้นปีได้ลดลงไปบ้าง ส่วนการลงทุนใน Special purpose acquisition companies (SPACs) หรือบริษัทที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อควบรวมกิจการ ไม่ได้รับความนิยมเหมือนเดิม รวมทั้งหุ้นจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่นักลงทุนรายย่อยเก็งกำไรอย่างดุเดือดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่กองทุนหุ้นสหรัฐฯ ยังคงเห็นเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าจากทั่วโลก เนื่องจากมองเห็นการเติบโตของกำไรบริษัทที่ยังคงมีแนวโน้มที่ดี รวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วย