BF Economic Research
การส่งออกไทยมีมูลค่า 22,650 ล้านดอลลาร์ฯ หรือ ขยายตัว 20.27% YoY (vs prev 44%) ทั้งนี้ หากหักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธยุทโธปกรณ์ หรือขยายตัวได้ 25.38% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 22,467 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 45.94% YoY (vs prev 53.9%) ส่งผลให้เกินดุลการค้า 183 ล้านดอลลาร์ฯ (vs prev 945.1 ล้านดอลลาร์ฯ)
หากพิจารณาการขยายตัวเมื่อเทียบรายเดือนพบว่าการส่งออกและการนำเข้าหดตัวทั้งคู่ที่ -4.4%MoM (vs prev 2.8%) และ -1.3%MoM (vs prev 2.2%) ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นว่าผลจากฐานต่ำเริ่มหมดไป และการค้าระหว่างประเทศอาจจะผ่านช่วงพีคไปแล้ว
สำหรับภาพรวมในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.) การส่งออกมีมูลค่า 154,985 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 16.20% การนำเข้า มีมูลค่า 152,362 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 28.73% ส่งผลให้ช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ ไทยเกินดุลการค้า 2,622 ล้านดอลลาร์ฯ
ในรายสินค้าที่ขยายตัวได้แก่
1) สินค้าเกษตรและอาหาร โดยเฉพาะผักและ ผลไม้ ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง น้ำมันปาล์ม ไก่สด แช่เย็น แช่เข็ง และแปรรูป เครื่องดื่ม อาหารสัตว์เลี้ยง และสิ่งปรุงรสอาหาร
2) สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใน บ้าน ขยายตัวเกือบทุกหมวด เช่น คอมพิวเตอร์โทรศัพท์และอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เครื่องปรับอากาศ เตาอบไมโครเวฟ เครื่องซักผ้าและส่วนประกอบ เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์และส่วนประกอบ
3) สินค้าเกี่ยวกับการ ป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์และถุงมือยาง
4) สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของภาคการผลิต เช่น เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์เม็ดพลาสติกผลิตภัณฑ์ยาง แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ
5) สินค้าคงทนหรือสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีราคาสูง เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ)
ด้านตลาดส่งออกยังขยายตัวเกือบทุกตลาด ตลาดสำคัญ อาทิ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน ขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง