Highlight
- แนวโน้มตลาดตราสารหนี้ไทยในระยะต่อไป กองทุนบัวหลวงคาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอายุไม่เกิน 2 ปี จะทรงตัวในระดับต่ำใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวยังมีความเสี่ยงที่จะปรับเพิ่มขึ้นได้ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
- กลยุทธ์การลงทุนยังคง Selective เน้นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีการปรับตัวทางธุรกิจที่ดี รวมถึงหุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัว
- Global REITs ปรับตัวดีขึ้นจากการเร่งฉีดวัคซีนในหลายประเทศและการเปิดเมืองในขณะที่ REITs ไทยยังคงฟื้นตัวได้ช้า ซึ่งคาดว่าน่าจะฟื้นตัวได้เมื่อมีความคืบหน้าเรื่องวัคซีนโควิดชัดเจนขึ้น และ REITs เป็นเครื่องมือกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
ตราสารหนี้
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจัดการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ มีมติ 4 ต่อ 2 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.50% โดยกรรมการฯ ส่วนใหญ่เห็นว่ามาตรการการเงินจะมีประสิทธิผลมากกว่าการลดอัตราดอกเบี้ยที่ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ ยังปรับลดคาดการณ์ GDP ลงเหลือ +0.7% ในปีนี้ และ +3.7% ในปีหน้า โดยปรับลดลงตามการบริโภคภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบมากในปีนี้และแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ปรับลดลงมากในปีหน้า
- แนวโน้มตลาดตราสารหนี้ไทยในระยะต่อไป กองทุนบัวหลวงคาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอายุไม่เกิน 2 ปี จะทรงตัวในระดับต่ำใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวยังมีความเสี่ยงที่จะปรับเพิ่มขึ้นได้ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงคาดว่า Fed จะเริ่มส่งสัญญาณปรับลดวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE Taper) ในช่วงครึ่งหลังของปี อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยอาจจะปรับเพิ่มขึ้นได้จำกัด จากปัจจัยด้านเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัวช้า
ตราสารทุน
- ปัจจัยที่จะขับเคลื่อนตลาดหุ้นโลกในช่วงนี้จะอยู่ที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและผลประกอบการเป็นสำคัญ หลังแรงส่งจากมาตรการทางการคลัง ที่สนับสนุนภาคการบริโภคของเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงที่ผ่านมานั้น เริ่มหมดลง เช่นเดียวกันกับนโยบายการเงิน ที่เริ่มมีแนวโน้มลดความผ่อนคลายลง อย่างไรก็ดี ตลาดก็ได้เริ่มซึมซับประเด็นการลด QE และการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในระยะข้างหน้าไปบ้างแล้ว
- ด้านตลาดหุ้นไทย ปรับตัวอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นโลก ตลาดถูกกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมาตรการล็อคดาวน์ที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และแผนการเปิดประเทศให้ยากลำบากมากยิ่งขึ้น
- แนวโน้มการลงทุน ปัจจัยภายนอก ยังคงต้องติดตาม พัฒนาการการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก สถานการณ์การแพร่ระบาดจากสายพันธุ์ใหม่ และทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลัก ขณะที่ปัจจัยภายใน จะอยู่ที่การควบคุมการแพร่ระบาด และการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงหลังจากนั้น กลยุทธ์การลงทุนยังคง Selective เน้นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีการปรับตัวทางธุรกิจที่ดี รวมถึงหุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัว
สินทรัพย์ทางเลือก
- Global REITs ปรับตัวดีขึ้นจากการเร่งฉีดวัคซีนในหลายประเทศและการเปิดเมืองในขณะที่ REITs ไทยยังคงฟื้นตัวได้ช้า ซึ่งคาดว่าน่าจะฟื้นตัวได้เมื่อมีความคืบหน้าเรื่องวัคซีนโควิดชัดเจนขึ้น และ REITs เป็นเครื่องมือกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
- ราคาทองคําในระยะยาวยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงทั้งในประเด็นเรื่องของการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และค่าเงินดอลล่าร์ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น รวมทั้งประเด็นเงินเฟ้อที่หากเป็นเพียงการปรับขึ้นชั่วคราวจริงก็อาจส่งผลให้ความต้องการทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางด้านอัตราเงินเฟ้อลดลง (ณ 30 ก.ค. 2564 กองทุนไม่มีการลงทุนในทองคำ)
พอร์ตการลงทุนไตรมาสที่ผ่านมา
- ตราสารทุน กองทุนเพิ่มน้ำหนักในหุ้น Software และลดน้ำหนักหุ้นอินเทอร์เน็ตของจีนและหุ้นไทยลดลงเล็กน้อย โดยลดน้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคาร สื่อสาร และแพคเกจจิ้ง แต่ลงทุนเพิ่มในหุ้นกลุ่มพาณิชย์ อิเล็คโทรนิคส์ ปิโตรเคมี และไฟแนนซ์
- ตราสารหนี้ กองทุนลดน้ำหนักพันธบัตรระยะยาว โดยเพิ่มน้ำหนักพันธบัตรและหุ้นกู้ระยะปานกลางมากกว่า ส่งผลให้อายุเฉลี่ยของพอร์ต (Portfolio duration) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย กองทุนยังได้ลดสัดส่วนกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภท Short Duration Bond Fund
- สินทรัพย์ทางเลือก กองทุนได้ลดสัดส่วนกองทุน REIT กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในไทยและต่างประเทศ รวมทั้ง กลุ่มโรงแรมและอาคารสำนักงานในประเทศ
ผลการดำเนินงานของกองทุน B-SENIOR-X ณ 30 ก.ค. 2564
สัดส่วนการลงทุนของกองทุน ณ 30 ก.ค. 2564
Disclaimer: เอกสารนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องครบถ้วน หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ และบริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เอกสารนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน มิได้มีวัตถุประสงค์ชักชวน ชี้นำ ให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจลงทุนทางการเงิน หรือการตัดสินใจในทางธุรกิจแต่อย่างใด ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังและวิจารณญาณจากการใช้ข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดของเอกสารฉบับนี้ ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต