เศรษฐกิจไทยขยายต่อเนื่อง สศค. เผย ก.พ. 61 ส่งออก-บริโภคเอกชน-ท่องเที่ยวโตดี
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ก.พ.ว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยในด้านอุปสงค์ขยายตัวดีจากการส่งออกสินค้า การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ดีเช่นกัน
นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล รองผู้อำนวยการ สศค.รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ในเดือน ก.พ. 2561 เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ดี สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายต่อเนื่องที่ 7.2% ต่อปี โดยเป็นการขยายตัวได้ดีจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากฐานการใช้จ่ายภายในประเทศและจากฐานการนำเข้า
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมในเดือน ก.พ.61 อยู่ที่ระดับ 66.1 ลดลงจากเดือนก่อนจากความกังวลเกี่ยวกับราคาพืชผลทางการเกษตรและค่าเงินบาทที่แข็งค่า
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหมวดเครื่องมือเครื่องจักรที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุน ขยายตัว 1.8% ต่อปี
อุปสงค์จากต่างประเทศผ่านการส่งออกสินค้าขยายตัวในระดับสูง และขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องที่ 10.3% ต่อปี โดยหมวดสินค้าสำคัญที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ ยานพาหนะอุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ น้ำมันสำเร็จรูป เม็ดพลาสติก คมีภัณฑ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ขณะที่ประเทศคู่ค้าที่ขยายตัวได้ดี เช่น ญี่ปุ่น อาเซียน-9 อาเซียน-5 อินโดจีน (CLMV) สหภาพยุโรป อินเดีย และทวีปออสเตรเลีย เป็นสำคัญ
นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทย สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีจำนวน 3.57 ล้านคน ขยายตัว 19.3% ต่อปี เหตุเทศกาลตรุษจีนปีนี้เหลื่อมมาอยู่ในเดือน ก.พ. ส่งผลทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวต่างประเทศจำนวน 1.95 แสนล้านบาท ขยายตัว 23.8% ต่อปี โดยเป็นนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดีจาก จีน รัสเซีย ฮ่องกง มาเลเซีย และอินเดีย เป็นหลัก
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี และเสถียรภาพภายนอกอยู่ในระดับที่มั่นคง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.4% ต่อปี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.6% ต่อปี
สำหรับอัตราการว่างงานคงที่จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 1.3% ของกำลังแรงงานรวม ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ในเดือน ม.ค.61 อยู่ที่ 41.4% ต่อปี ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกิน 60% ต่อ GDP สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับมั่นคงและสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน ก.พ.61 อยู่ที่ระดับ 212.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้น 3.3 เท่า