กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH) และกองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยีเพื่อการเลี้ยงชีพ  (B-INNOTECHRMF)

กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH) และกองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยีเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-INNOTECHRMF)

Highlight

  • ผู้จัดการกองทุนยังคงชอบและให้น้ำหนักในหุ้นอุปกรณ์สื่อสาร หุ้นอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ หุ้นอีคอมเมิร์ซ และหุ้นเกี่ยวกับโฆษณา ขณะที่ลดน้ำหนักกลุ่มซอฟต์แวร์เนื่องจากราคาแพงเกินไป รวมถึงบริษัทฮาร์ดแวร์และผู้ให้บริการด้านไอทีที่ไม่มีความโดดเด่น
  • ผู้จัดการกองทุนเลือกหุ้นโดยดูจากปัจจัยพื้นฐาน แบบ Bottom-Up โดยเน้นลงทุนในบริษัทที่มีการพัฒนาโครงสร้างทางเทคโนโลยี เช่น คลาวด์ อีคอมเมิร์ซ และปัญญาประดิษฐ์ เนื่องจากมองว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาว

พอร์ตการลงทุน

กองทุนมีการลงทุนในกลุ่ม เซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ (semiconductors & semiconductor equipment ) และอินเทอร์เน็ตและตลาดค้าปลีก (internet & direct marketing retail)  โดยหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปปรับตัวสูงขึ้นหลังจากเปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ที่ดีกว่าคาดการณ์ สวนทางกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของจีน ที่ได้รับแรงกดดันจากการเข้ามาคุมเข้มของภาครัฐใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ การต่อต้านการผูกขาด และการตรวจสอบเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลของผู้บริโภคโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหยุดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมบนอินเทอร์เน็ต

ผู้จัดการกองทุนการปรับลดการถือหุ้น Visa ลง หลังมีการแพร่ระบาดระรอกใหม่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธ์เดลต้า ที่ทำให้การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจลดลง อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเป็นผลกระทบเพียงชั่วคราวเท่านั้น จากแนวโน้มการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หุ้นที่ส่งผลบวกกับกองทุน เช่น  Workday ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ในองค์กร ราคาปรับตัวขึ้น หลังจากผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ออกมาดีกว่าคาดการณ์ ตามความต้องการซอฟต์แวร์การจัดการด้านการเงินและการจัดการทรัพยากรที่เพิ่มขึ้น และคาดการณ์ว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2564 เนื่องจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในตลาดสหรัฐฯ และสำนักงานต่างๆ เปิดขึ้นอีกครั้ง กองทุนยังได้เพิ่มน้ำหนักหุ้น Salesforce บริษัทจัดการด้านลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) หลังจากเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่ง เนื่องจากรายได้จากการสมัครใช้บริการเร่งตัวขึ้น และอัตรากำไรแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ผู้จัดการกองทุนยังคงชอบและให้น้ำหนักในหุ้นอุปกรณ์สื่อสาร หุ้นอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ หุ้นอีคอมเมิร์ซ และหุ้นเกี่ยวกับโฆษณา ขณะที่ลดน้ำหนักกลุ่มซอฟต์แวร์เนื่องจากราคาแพงเกินไป รวมถึงบริษัทฮาร์ดแวร์และผู้ให้บริการด้านไอทีที่ไม่มีความโดดเด่น

มุมมองในอนาคต

ผู้จัดการกองทุนเลือกหุ้นโดยดูจากปัจจัยพื้นฐาน แบบ Bottom-Up โดยเน้นลงทุนในบริษัทที่มีการพัฒนาโครงสร้างทางเทคโนโลยี เช่น คลาวด์ อีคอมเมิร์ซ และปัญญาประดิษฐ์  เนื่องจากมองว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาว

ผู้จัดการกองทุนยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อภาคเทคโนโลยีโดยรวมเพราะโดยพื้นฐานแล้ว บริษัทเทคโนโลยีสามารถเติบโตได้เร็วกว่าเศรษฐกิจในระยะยาวและหุ้นวัฏจักร และมองว่าเมื่อเปิดเศรษฐกิจแล้ว เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ รวมถึงจะมีบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมากที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวหลังโควิด-19 ทั้งด้านการวางแผนการเดินทาง การจองตั๋วหรือที่พัก ฯลฯ นอกจากนี้ เมื่อพูดถึงการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนทางดิจิทัลก็ยังมีบทบาทสำคัญอย่างมาก เช่น การใช้จ่ายบรอดแบรนด์และ 5G

ผลการดำเนินงานของกองทุน B-INNOTECH  และ B-INNOTECHRMF ณ 31 สิงหาคม 2564

ข้อมูลกองทุนหลัก FIDELITY FUNDS – GLOBAL TECHNOLOGY FUND ณ 31 สิงหาคม 2564

Disclaimer: เอกสารนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องครบถ้วน หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ และบริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เอกสารนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน มิได้มีวัตถุประสงค์ชักชวน ชี้นำ ให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจลงทุนทางการเงิน หรือการตัดสินใจในทางธุรกิจแต่อย่างใด ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังและวิจารณญาณจากการใช้ข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดของเอกสารฉบับนี้ ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต